ดร.โดนัล ฮานนา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ภูมิภาค กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนที่ขยายจากสงครามการค้าต่อเนื่องมาเป็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เปรียบเหมือนกับการค่อยๆ ดึงม่านไม้ไผ่ลงมาปิดกั้นความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิด 5 ประเด็นที่น่าจับตา ได้แก่ 1. เทคโนโลยี 5G ในอนาคต สหรัฐและจีนต่างพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองโดยแยกจากกัน สหรัฐก็จะพัฒนาทางดานเทคโนโลยีทางหนึ่ง จีนก็พัฒนาเทคโนโลยีอีกทางหนึ่ง ทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกว่าจะใช้เทคโนโลยีของใคร ส่งผลใหต้นทุนสูงขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานต่ำลง อาจจะกระทบกับไทยและอาเซียนได้เราต้องมาดูว่าจะต้องทำอย่างไรในภาวะเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน 2. เศรษฐกิจจีนชะลอลงจากสงครามการค้า แต่ที่เศรษฐกิจจีนกำลังโตตอนนี้เป็นการโตเหนือศักยภาพ ด้วยการอัดฉีดทางการเงินการคลัง จึงมีผลกระทบคือ เงินเฟ้อสูง ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น 3. จีนเร่งโตโดยนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศจนขาดดุลบัญชีเดินสะพัด จากที่เคยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 10% รวมถึงการท่องเที่ยวของชาวจีนด้วย จากการที่ชาวจีนออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศกันมาก หากจีนจำกัดการนำเข้าและการท่องเที่ยวจะกระทบกับจำนวนชาวจีนที่มาเที่ยวไทย 4. จีนเพียงเติบโตช้าแต่ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต จีนมียอดสินเชื่อที่โตสูงเกินจีดีพี หากบริหารจัดการไม่ดี จะมีปัญหาผลกระทบกับไทยและอาเซียนได้ จึงเป็นเรื่องดีที่จีนพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้ให้เกิดภาวะวิกฤต 5. นักลงทุนนักวิเคราะห์มองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 4 ครั้ง หรือ 1% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า แต่ซีไอเอ็มบีมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ถึงขั้นถดถอย การลดดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้แรงเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ เพราะฉะนั้นโอกาสที่เงินจะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ก็เป็นไปได้ โอกาสที่ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่จะกลับมาอ่อนค่าก็เป็นไปได้ ซึ่งเป็นผลดีกับบาท เพราะบาทแข็งค่อนข้างแรงและทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง เป็นผลดีกับภาคการลงทุน นอกจากนี้ มีความเสี่ยง 2 ประเด็น ที่ต้องจับตา 1. Brexit ไม่น่ากระทบไทยมากนัก ยกเว้นว่าจะลามไป EU 2. ทรัมป์จะทำอย่างไรในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้า ถ้าเศรษฐกิจที่ชะลอส่งผลให้คะแนนนิยมแย่ลง ทรัมป์อาจหันไปสู่กับอิหร่านเพื่อเพิ่มคะแนนความนิยมของตัวเอง หรืออาจไปสู้กับราคาน้ำมันทำให้ราคาสูงขึ้นเพื่อเป็นผลดีกับประเทศส่งออกน้ำมันอย่างสหรัฐ ดังนั้น การปรับลดลงของม่านไม้ไผ่เป็นประเด็นที่ไทยและประเทศอาเซียนต้องระมัดระวัง ต้องพยายามเสริมความสัมพันธ์กันในอาเซียนให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับภาวะของความไม่แน่นอน และเร่งลดต้นทุนพร้อมสร้างประสิทธิภาพการผลิต |
Bank & Insurance >