ทีคิวเอ็ม โชว์กำไรปี 61 ทะลุ 400 ลบ.โต 50% มั่นใจโตต่อเนื่องเปิดเกมรุกออนไลน์ขึ้นแท่นผู้นำ Insure tech ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น แถลงผลประกอบการประจำปี 2561 ตอกย้ำความเป็นผู้นำโบรคเกอร์ประกันภัยในประเทศไทย โชว์ผลงาน กำไรมากกว่า 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 ในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดขายประกันรถยนต์เติบโตโดดเด่น เนื่องจากยอดขายรถยนต์ในประเทศปีที่ผ่านมาทำสถิตินิวไฮสูงสุดในรอบ 5 ปี ดันเบี้ยประกันปีที่ผ่านมาทะลุเป้าอยู่ที่ 11,095 ล้านบาท มั่นในปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์และเทรนด์รักษาสุขภาพที่ยังมาแรงต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาฟีเจอร์ Real-time Chatbot “TQM Blue Beary Bot” ผ่าน LINE Official Account “TQM Insurance Broker” พร้อมเปิดเกมรุกบุกตลาดออนไลน์ทุกช่องทางด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อก้าวเป็นผู้นำ Insure tech สร้างประสบการณ์ซื้อประกันภัยผ่านระบบออนไลน์ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค Mobile First เจาะตลาดประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ดร.อัญชลิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีคิวเอ็ม ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ถือได้ว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และหุ้นก็ได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี รวมทั้งในส่วนของบริษัทประกันก็ให้การตอบรับหุ้นของทีคิวเอ็มด้วยดีเช่นกัน ทั้งนี้ทีคิวเอ็มเป็นโบรคเกอร์รายแรกที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้านดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2562 ทีคิวเอ็มตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 12,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 โดยกลุ่มทีคิวเอ็มยังคงตอกย้ำความเป็นผู้นำโบรคเกอร์ประกันภัยภายใต้แนวคิด “ไม่หยุดทำดีที่สุดเพื่อคุณ” ร่วมเดินหน้าพัฒนาโปรดักท์ประกันภัยร่วมกับพันธมิตร ที่เน้นการตอบโจทย์กับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค พร้อมเสริมทัพด้วยการให้บริการที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอด 24ชั่วโมง ทั้งด้านออฟไลน์และออนไลน์ตามคอนเซปท์ “TQM Beside, Fight for Fair เพื่อนที่อยู่เคียงข้างคุณ 24 ชั่วโมง” ทั้งด้านการขายและการให้บริการ โดยทีคิวเอ็มได้เดินหน้าดำเนินงานในหลายส่วน เช่น ทีคิวเอ็มได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในช่วงต้นปีที่ผ่านมากับโครงการเที่ยวทั่วไทย หรือในปีที่ผ่านมากับโครงการมอบของขวัญปีใหม่ประกันอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ เพื่อร่วมตอบแทนสังคม รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกันในการพัฒนาโปรดักท์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายในลักษณะ Product Segmentation เช่น โปรดักท์ประกัน Motor for Lady กับเมืองไทยประกันภัย ประกันมนุษย์เงินเดือน กับกรุงเทพประกันภัย และโครงการเที่ยวสบายใจฝากบ้านไว้กับประกัน ร่วมกับ 8 พันธมิตรบริษัทประกัน” โดยในปีที่ผ่านมา TQM นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาช่องทางขาย ภายใต้โครงการ “TQM Digital” ที่จะพัฒนาการขายในตลาดประกันออนไลน์ (Insure Tech)” พัฒนาฟีเจอร์ Real-time Chatbot เปิดตัว “TQM Blue Beary Bot” ผ่าน LINE Official ที่สามารถซื้อประกันภัยผ่าน Chatbot ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง TQM ประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา จากการพัฒนาโปรดักท์ และการให้บริการที่สามารถเข้าถึง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคดิจิทัล ทั้งนี้บริษัท ฯ พร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโต ในปี 2562 กลยุทธ์การดำเนินงานของกลุ่มทีคิวเอ็มในปี 2562 ได้วางแนวทางไว้เป็นโครงการหลัก ๆ 8 โครงการ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ - โครงการ BIG DATA PROJECT เป็นโครงการที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงสามารถสื่อสารได้ตรงกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจ ด้วยการใช้ AI มาประมวลผลและวิเคราะห์เพื่อใช้ในการนำเสนอ Products ให้ตรงความต้องการของลูกค้า - โครงการ Products Segmentation เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าตามความต้องการหรือพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มกับบริษัทประกัน ด้วยการขยายผลเจาะลึกมากขึ้น หรือการขยายความร่วมมือกับบริษัทประกันเพิ่มขึ้น - โครงการ LIFE INSURANCE PLATFROM เป็นเปรียบเสมือนตัวช่วยที่จะทำให้ลูกค้าสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการเปรียบเทียบประกันชีวิตที่มีความเหมาะสมและคุ้มค่ากับตนเองมากที่สุด และเป็น Platform ที่ช่วยสนับสนุนระบบงานขายประกันชีวิตของบริษัท ฯ ด้วย - โครงการ Non Motor INSURANCE PLATFROM เป็นโครงการที่พัฒนาสำหรับใช้สนับสนุนงานขายประกันหมวด Health, PA, TA, Home เพิ่มความสะดวกในการเลือกทำประกัน - โครงการ LINE CHATBOT / AI / CHAT CENTER โครงการที่จะเพิ่มช่องทางการขายแบบ Omni Channel และพัฒนา Chatbot เพื่อมาตอบสนองทั้งในแง่การบริการและงานขาย - โครงการ AFFILIATE / STRATEGIC PARTNER เป็นโครงการทางการตลาดในการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเจ้าอื่น ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น - โครงการใช้เทคโนโลยีเพิ่มยอดขาย ลดค่าใช้จ่าย โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ต่อยอดกับสาขาและศูนย์ประสานงานของทีคิวเอ็มทั้ง 95 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ - โครงการ Financial Brokerเป็นโครงการนายหน้าให้บริการทางด้านการเงิน เพื่อรองรับบริการด้านการเงินให้กับฐานลูกค้าของบริษัท ดร.นภัสนันท์ กล่าวต่ออีกว่า “กลุ่มทีคิวเอ็มจะเน้นการเพิ่มยอดขายจากกลยุทธ์ทั้ง 8 โครงการนี้ ในลักษณะของInorganic Growth ที่จะต้องพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด สื่อสารให้เกิดการรับรู้กับผู้บริโภค การร่วมมือกับ Strategic Partnerและตลอดจนการร่วมทุน เพื่อทำให้บริษัทเติบโต รวมทั้งการเพิ่มยอดขายในลักษณะ Organic Growth ที่จะเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ยอดขายอันดับหนึ่งยังคงเป็นรายได้จากยอดขายประกันรถยนต์ และอันดับที่สองคือ การขยายรายได้ไปสู่ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ซึ่งจากฐานลูกค้าเดิมมีอยู่แล้วจำนวนกว่า 1 ล้านราย และยังมีแนวโน้มการเติบโตของผู้บริโภคในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีก จากเทรนด์ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การรับรู้ถึงค่ารักษาพยาบาลที่อยู่ในระดับสูงขึ้นทุกปี หรือ Aging Societyที่คนจะอายุยาวขึ้นและให้ความสำคัญกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งประกันชีวิตและประกันสุขภาพจะมาตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ทีคิวเอ็มจะใช้เป็นกลยุทธ์ในการสร้างยอดขายจะเน้นที่ความคุ้มค่าของกรมธรรม์ และความคุ้มค่าเงินที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไปมากที่สุด (Value for money)” ดร.นภัสนันท์ กล่าวสรุปกลยุทธ์ปี 2562 |
Bank & Insurance >