Bank & Insurance‎ > ‎

เอไอเอ ส่งสัญญาเพิ่มเติม ‘เอไอเอ ซีไอ พลัส โกลด์’ ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง

posted Jul 19, 2017, 9:39 PM by Maturos Lophong

 

 เอไอเอ ประเทศไทย ส่งสัญญาเพิ่มเติมตัวล่าสุด ‘เอไอเอ ซีไอ พลัส โกลด์’ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ภายใต้แคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’ ที่มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ 4 เรื่อง สะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ โดยได้ “เต้ย จรินทร์พร” พรีเซ็นเตอร์แคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’มารับบท ‘โค้ช’ แนะนำแผนประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม เพื่อเตรียมรับมือกับโรคร้ายแรงไว้ล่วงหน้า 

นางณาตยา สุขุม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “หลังจากเปิดตัวแคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’ ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีคุณเต้ย จรินทร์พร มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริงของน้องชายที่ป่วยเป็นโรคลูคิเมีย เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของการวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนั้น เราได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยเห็นได้จากยอดขายของผลิตภัณฑ์ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงซึ่งอยู่ในแคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’ ที่เพิ่มสูงขึ้น สะท้อนได้ว่าคนส่วนใหญ่เริ่มตื่นตัวและตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องเริ่มวางแผนด้านความคุ้มครองโรคร้ายแรงให้เพียงพอ ดังนั้น จากความสำเร็จของแคมเปญดังกล่าว จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงตัวใหม่ ‘เอไอเอ ซีไอ พลัส โกลด์’ (AIA CI Plus Gold) ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรงแบบใหม่ภายใต้แคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’ โดยคุ้มครองโรคร้ายแรงระยะเริ่มต้นถึงระยะปานกลาง 18 โรค และโรคร้ายแรงระยะรุนแรงอีก 15 โรค รวม 33 โรคร้ายแรง ซึ่งเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง ผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์ทันที 25% ของจำนวนเงินเอาประกัน และเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงในระยะรุนแรง ผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์อีก 20% ของจำนวนเงินเอาประกันนานต่อเนื่องถึง 5 ปีติดต่อกัน เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งตรงนี้นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรงที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากเราทราบถึงปัญหาของผู้ป่วยโรคร้ายแรงที่เมื่อหลังจากเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีช่วงระยะพักฟื้นเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างต่ำ 5 ปี* และในช่วงระยะเวลา 5 ปีนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสูญเสียรายได้ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้น เอไอเอ เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาแผนประกัน ‘เอไอเอ ซีไอ พลัส โกลด์’ ขึ้น”



“และเพื่อเดินหน้าผลักดันให้คนตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับโรคร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเราได้ทำภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ขึ้นมาทั้งหมด 4 เรื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “วางแผนชีวิต คิดให้ครบ” โดยได้ ‘เต้ย จรินทร์พร’ มาร่วมแสดงทำหน้าที่เสมือนโค้ชที่ช่วยแนะนำการวางแผนความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของคนแต่ละกลุ่ม ด้วยแผนประกันภายใต้แคมเปญ ‘AIA สู้ทุกระยะโรคร้าย’ ซึ่งภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวสะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ที่มีการวางแผนที่ดีเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคตให้กับตัวเองและลูก ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การเงิน การลงทุน หรือการดูแลสุขภาพ แต่คนส่วนใหญ่จะลืมนึกถึงการวางแผนเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดคิด โดยเฉพาะเรื่องโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ทำให้เกิดปัญหาทางด้านการเงินที่ตามมาและอนาคตที่วางแผนไว้ต้องสะดุดลง เราหวังว่าภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะกระตุ้นให้คนหันกลับมาวางแผนความคุ้มครองโรคร้ายแรงให้กับตัวเองและครอบครัว เพื่อให้มีความคุ้มครองที่เพียงพอและหมดกังวลหากวันใดวันหนึ่งต้องเผชิญกับโรคร้ายแรง โดยขอฝากให้ติดตามภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 4 เรื่องได้ทางออนไลน์ ทั้ง YouTube และ Official Facebook ของเอไอเอ ประเทศไทย” นางณาตยา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้เปิดตัวสัญญาเพิ่มเติมตัวใหม่ล่าสุด ‘เอไอเอ เอชบี เอ็กซ์ตร้า’ (AIA HB Extra) ซึ่งเป็นสัญญาเพิ่มเติมกลุ่มชดเชยรายได้ในกรณีผู้เอาประกันเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยสัญญาเพิ่มเติม ‘เอไอเอ เอชบี เอ็กซ์ตร้า’ จะมอบความคุ้มครองยาวนานตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 70 ปี พร้อมผลประโยชน์พิเศษมากมายอาทิ มอบค่าชดเชยรายวันเป็น 3 เท่าของจำนวนเงินเอาประกัน ในกรณีที่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยหนัก (ICU) ในกรณีเข้ารับการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับเงินชดเชยรายวันเป็น 5 เท่าของจำนวนเงินเอาประกัน และหากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงเฉียบพลัน 13 โรค* จะได้รับเงินชดเชยรายวันสูงถึง 25 เท่าของจำนวนเงินเอาประกัน นอกจากนี้ สัญญาเพิ่มเติมนี้ ยังมีผลประโยชน์ค่ายากลับบ้านหลังจากเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน นอกจากนั้น ในกรณีเสียชีวิต ก็จะได้รับเงินชดเชยสูง 10 เท่าของจำนวนเงินเอาประกัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการประกันชีวิตที่มอบผลประโยชน์ที่คุ้มค่า ทำให้ผู้ป่วยอุ่นใจหากต้องขาดรายได้ในขณะที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

หมายเหตุ: * ข้อมูลจากผลวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Wyoming ระหว่างปี ค.ศ. 1999 ถึง 2009

http://www.latimes.com/science/sciencenow/la-sci-sn-cancer-lost-income-20151025-story.html

คำเตือน: ผู้เอาประกันภัยควรศึกษาและทำความเข้าใจในเอกสารเสนอขายก่อนตัดสินใจทำประกันภัย เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้ว โปรดศึกษารายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขในกรมธรรม์

*โรคร้ายแรงเฉียบพลัน ซึ่งได้รับการตรวจและยืนยันโดยแพทย์ ประกอบด้วย

กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด

โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน

การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ

การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ หรือ ปลูกถ่ายไขกระดูก

โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง

โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

แผลไหม้ฉกรรจ์

ภาวะโคม่า

สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส

การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ

การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง

การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้า

โรคคาวาซากิที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจ

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ

กลุ่มบริษัทเอไอเอ และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “เอไอเอ” หรือ “กลุ่มบริษัทเอไอเอ”) เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีการบริหารจัดการอย่างอิสระ มีบริษัทในเครือและสำนักงานสาขาใน 18 ประเทศทั่วเอเชีย แปซิฟิกทั้งในประเทศฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ ฟิสิปปินส์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เวียดนาม นิวซีแลนด์ มาเก๊า บรูไน และกัมพูชา และเป็นผู้ถือหุ้น 97% ในบริษัทในเครือในประเทศศรีลังกา และถือหุ้นร่วมทุน 49% ในประเทศอินเดีย อีกทั้งยังมีสำนักงานผู้แทนในประเทศพม่า

เอไอเอเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อเกือบศตวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก(ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในด้านเบี้ยประกันภัยรับจากธุรกิจประกันชีวิต และเป็นผู้นำตลาดโดยส่วนใหญ่ในภูมิภาคโดยมีสินทรัพย์รวม ณ 30 พฤศจิกายน 2559 ที่ 185,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

กลุ่มบริษัทเอไอเอนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการออมเงินระยะยาวและความคุ้มครองชีวิตแก่ลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินในวัยเกษียณ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทเอไอเอยังให้บริการลูกค้าองค์กรผ่านผลิตภัณฑ์สวัสดิการพนักงาน ประกันสินเชื่อ และให้บริการเป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านเครือข่ายตัวแทน พันธมิตรและพนักงานทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกโดยเอไอเอมีลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลที่มีผลบังคับมากกว่า 30 ล้านกรมธรรม์ และเป็นสมาชิกกรมธรรม์ประกันกลุ่มมากกว่า 16 ล้านคน
Comments