Government‎ > ‎

กสอ. เปิดตัว 5 แอพเพื่อ SMEs ไทย

posted Jun 15, 2017, 1:42 AM by Maturos Lophong


กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งผลักดันผู้ประกอบการใช้ประโ ยชน์จากช่องทางการสื่อสารออนไลน์ เปิดตัว 5 แอปพลิเคชันในกลุ่มระบบบัญชีและ การบริหารจัดการองค์กร ได้แก่ 1. แอปพลิเคชัน Money Flow 2. แอปพลิเคชัน Billing Flow 3. แอปพลิเคชันStock Flow 4. แอปพลิเคชัน DIP Business Evaluation และ 5.แอปพลิเคชัน DIP Business Plan

ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อลดปัญหาพื้นฐานความยุ่งยากและซับซ้อนด้านร ะบบการทำบัญชีและการเงิน พร้อมเป็นตัวช่วยให้การดำเนินธุ รกิจมีความรวดเร็ว สามารถลดต้นทุนและขั้นตอนต่าง ๆ ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยทั้ง 5 แอปพลิเคชันนี้สามารถใช้ได้บนสม าร์ทโฟนและแท็บแล็ต ผ่านระบบปฏิบัติการทั้งแอนดรอยด์ และไอโอเอส นอกจากนี้ยังมีบริการออนไลน์อื่ นๆ ที่ได้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2559 ที่ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปยั งคงใช้บริการได้ ได้แก่ www.NEClearning.com , www.bsc.dip.go.th , www.e-consult.dip.go.th , www.id-society.com ทั้งนี้ จากสถิติ SMEs ที่มีอยู่กว่า 2.8 ล้านรายพบว่า มีเพียง 20% หรือประมาณ 550,000 รายที่นำระบบเทคโนโลยีและเครื่อ งมือออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในกิจก รรมการดำเนินอุตสาหกรรม โดยการจัดทำแอปพลิเคชันทั้ง 5 ในปีนี้ กสอ. ตั้งเป้าหมาย ให้ผู้ประกอบการใช้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย

ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีการพัฒนา แอปพลิเคชันเพื่อตอบสนองการแก้ปั ญหาและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ป ระกอบการในยุคที่ระบบ 4G กำลังครอบคลุมวิถีชีวิตและการดำ เนินงานเพื่อให้เกิดประสิทธิ ภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยได้พัฒนาให้สามารถใช้งานได้ทั้ งบนสมาร์ทโฟนหรือแท๊บเล็ตได้อย่ างรวดเร็ว สะดวก เรียบง่าย และมีทางเลือกที่เหมาะสมในการดำ เนินธุรกิจ ซึ่งในปี 2560 นี้ได้จัดทำ 5 แอปพลิเคชันเพื่อเป็นตัวช่วยให้ กับผู้ประกอบการ ได้แก่ Money Flow Application ระบบควบคุมการรับและจ่ายเงินสด และกระแสเงินสด Billing Flow Application ระบบขายและออกบิลสำหรับร้านค้าที่ ซื้อมาขายไป Stock Flow Application ระบบความคุมสต็อกสินค้า สำหรับธุรกิจที่ซื้อมาขายไป DIP Business Evaluation Application แอปพลิเคชันสำหรับประเมินผลการดำ เนินงานและผลประกอบการธุรกิจ SMEs DIP Business Plan Application ระบบการจัดทำแผนธุรกิจสำหรับธุร กิจการผลิตรายย่อย โดยทั้ง 5 แอปพลิเคชันที่กล่าวมานี้จะเป็น ปัจจัยช่วยส่งเสริมและลดต้นทุนใ นการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบกา รโดยเฉพาะในด้านระบบบัญชี และการเงินให้มีความต่อเนื่องใน ทุกสถานการณ์ ลดความล่าช้าและความซับซ้อนที่เ กิดขึ้นประจำวัน เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำใ นระบบบัญชีและการเงินได้มากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนจากการใช้ทรั พยากรมนุษย์ ทั้งนี้ 5 แอปพลิเคชันดังกล่าวมีการดาวน์โ หลดในปีนี้ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 25,000 ครั้ง ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถดาวน์โหล ดและใช้งานจริงได้แล้วตั้งแต่วั นนี้ในระบบปฏิบัติการไอโอเอสและ แอนดรอยด์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้ จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

โดยนอกเหนือจาก 5 แอปพลิเคชันข้างต้น กสอ. ยังมีช่องทางการบริการระบบออนไล น์อื่น ๆที่ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไป ยังคงสามารถดาวน์โหลดและเข้าใช้ ได้ ซึ่งได้เปิดให้ใช้บริการ อาทิ www.NEClearning.com แพลตฟอร์มการเรียนรู้เริ่มต้นธุ รกิจด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเ ข้าถึงการเรียนรู้เพื่อเตรี ยมพร้อมด้านการประกอบการในยุคดิ จิทัล ผ่านระบบ E-Learning www.bsc.dip.go.th เว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลข่าว สาร โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ กรณีศึกษา SMEs ที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนคลังความรู้ในการประกอบธุ รกิจที่ผู้ประกอบการสามารถนำข้อ มูลไปพัฒนาและต่อยอดได้ www.e-consult.dip.go.th การให้บริการรูปแบบ Web Conference จากศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม (BSC) ในระดับส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษา อาทิ การเริ่มต้นธุรกิจ ปัญหาการดำเนินธุรกิจโดยผู้เชี่ ยวชาญเฉพาะด้าน www.id-society.com จากศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์คลังไอเดียที่ รวบรวมแรงบันดาลใจ ไอเดีย ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย นักออกแบบ และสินค้าวัตถุดิบที่ง่ายสำหรับ การค้นหาการออกแบบทางอุตสาหกรรม ทั้งหมด

ดร.พสุ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้วงการอุตสาหกรรมในระดับสา กลได้หันมาใช้ประโยชน์จากโปรแกร มประยุกต์บนช่องทางการสื่ อสารออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า Mobile Application มาเป็นจุดสำคัญในการดำเนินธุรกิ จ พร้อมทั้งผนวกเข้ากับกิจกรรมต่า งๆ กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าแอปพลิเคชัน ที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายและหลา กหลายประเภทนี้คือปัจจัยและอาวุ ธที่สำคัญประเภทหนึ่งที่ทำให้ การดำเนินธุรกิจสะดวกสบาย มีความรวดเร็วและสามารถแก้ปัญหา บางประเภทได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการในการเชื่อมโยงข้อมูล การสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถยกระดับการบริหารจัดการ การลดต้นทุนในขั้นตอนการผลิต รวมถึงการสร้างไอเดียหรือมุมมอง ใหม่ๆ ที่จะนำไปประยุกต์ในการใช้สร้าง โอกาสช่องทางทางการตลาดหรือการต่ อยอดธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพที่ ดียิ่งขึ้น

แต่สำหรับสถานการณ์ของผู้ประกอบ การไทยทั้งในภาคการค้า ภาคการผลิต ภาคการบริการ และอื่น ๆ กลับพบว่ายังไม่สามารถปรับตัวได้ ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในแง่การแข่งขันทางธุรกิจแล ะในแง่ของพฤติกรรมผู้บริโภคได้ ดีเท่าที่ควร ซึ่งส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการและรู ปแบบเดิม ๆ ในการทำธุรกิจ เนื่องจากยังขาดความรู้ความเชื่ อมั่น รวมถึงทักษะทางด้านการใช้นวัตกร รม เทคโนโลยี ไอซีที เข้าไปปรับธุรกิจให้ทันสมัย ทั้งนี้ จากสถิติ SMEs ที่มีอยู่กว่า 2.8 ล้านรายพบว่า มีเพียง 20% หรือประมาณ 550,000 รายที่นำระบบเทคโนโลยีและเครื่อ งมือออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในกิจก รรมการดำเนินอุตสาหกรรม (ที่มา : สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์ แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)) ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัว ให้เข้าถึงทักษะการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และแอปพลิเคชันที่มีการพัฒนาอย่ างมากมายนี้เพื่อก่อให้เกิดประสิ ทธิภาพในองค์กรอย่างสมบูรณ์ แบบมากขึ้น และเพื่อที่ในอนาคตจะได้ก้าวทัน โลกแห่งการค้าที่ไร้พรมแดน พร้อมก้าวนำผู้อื่นจากสิ่งที่มี อยู่ในมืออย่างฉับไวได้ทุกที่ทุ กเวลาด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ดี กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจะเร่งเปลี่ ยนโจทย์ที่สำคัญของผู้ประกอบการ ไทยเพื่อให้ก้าวทันยุค 4.0 โดยจะเร่งปรับรูปแบบการดำเนินงา นของเอสเอ็มอีให้หันมาทำธุรกิ จโดยใช้ระบบออนไลน์และดิจิทัลอย่ างเต็มตัวและเต็มรูปแบบ รวมถึงการสร้างบุคลากร กลุ่มคน ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างนวัตกรรมด้านบริการออนไ ลน์ให้เกิดขึ้นอย่างหลากหลายตาม ที่ตลาดธุรกิจและผู้ประกอบการต้ องการ ภายใน 2 ปี โดยในเบื้องต้นได้จัดสรรงบประมา ณจากโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิ ทัลและใช้ประโยชน์จากดิจิทัลไว้ จำนวน 44 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้ ผู้ประกอบการหันมาใช้ประโยชน์จา กบริการและระบบดิจิทัลได้ไม่น้ อยกว่า 1 แสนราย ภายในปีนี้อย่างแน่นอน ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใ จรายละเอียดการดาวน์โหลดแอปพลิ เคชัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ ศูนย์บริการธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 1358 หรือเข้าไปที่ www.bsc.dip.go.th/

Comments