Marketing




เดอะมอลล์ กรุ๊ป เฉลิมฉลองปีเถาะมหามงคล 2566

posted Jan 11, 2023, 1:00 AM by Maturos Lophong

เดอะมอลล์ กรุ๊ป เฉลิมฉลองปีเถาะมหามงคล 2566

ตื่นตาตื่นใจสุดยอดกายกรรม “จางไฮ่หลุน” อิมพอร์ตจากประเทศจีน
เสริมมงคลจี้กังหันวัดแชกงหมิว จากฮ่องกง สักการะ “วิหารสวรรค์เจ้าแม่ทับทิม”
จุดธูปไร้ควันแบบดิจิทัล AR พร้อมรับความเฮงกับโปรแรงสุดปังทั้งศูนย์ฯ

เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดศักราชใหม่ ทุ่มงบ 150 ล้านบาท จัดแคมเปญใหญ่ฉลองตรุษจีน2566 “THE MALL GROUP HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 JOY LUCK LOVE” ตื่นตาตื่นใจกับสุดยอดกายกรรม “จางไฮ่หลุน” อิมพอร์ตจากประเทศจีน กับโชว์เหาะบนเก้าอี้สูง 7 เมตร พร้อมเสริมมงคล เหาะรับเฮง โชคดีตลอดปีกระต่ายทอง ที่ “วิหารสวรรค์เจ้าแม่ทับทิม” เทพเจ้าประจำปีเถาะที่ทำพิธีอัญเชิญ จากวัดศาลเจ้าแม่ทับทิม เหย่ามาเต๋ ฮ่องกง ร่วมจุดธูปไร้ควันแบบดิจิทัล AR และลิ้มรสเมนูจักรพรรดิ อภิมหาเฮง อาหารมงคลจากภัตตาคาร ร้านอาหารชื่อดังทั่วกรุงและร้านอาหารชั้นนำในศูนย์การค้ารวมกว่า 200 ร้านค้า 1,000 เมนู พร้อมรับความเฮงกับโปรแรงสุดปัง ลดสูงสุด 80 %

 รับ M Point รวมสูงสุด 40,000 M Point และ 18 ท่านแรก ที่สะสมยอดใช้จ่ายในศูนย์ฯครบตามเงื่อนไข รับทองคำ 1 สลึง ระหว่างวันที่ 13 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
เดอะมอลล์, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Miss Voralak Tulaphorn ; Chief Marketing Officer, The Mall Group Co., Ltd.) กล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจรีเทลในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มีความคึกคักมาก กำลังซื้อของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้าชาวไทยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากนโยบายของภาครัฐ “โครงการช้อปดีมีคืน” มาเป็นตัวช่วยอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจรับปีใหม่และตรุษจีน 2566 ให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 สำหรับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียน e-Tax กับกรมสรรพากร ลูกค้าจึงสามารถใช้สิทธิ์ออกใบกำกับภาษีได้ 40,000 บาทเต็ม จึงมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับห้างสรรพสินค้ากลุ่ม
เดอะมอลล์ กว่า 30% และเพิ่มทราฟฟิกในศูนย์การค้ากว่า 30% นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่ดีจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่องได้แก่นักท่องเที่ยวจาก เอเชีย ยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจาก มาเลเซีย, อินเดีย, ลาว , กัมพูชา ซึ่งเดินทางเข้ามาจำนวนมากตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งทางศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ Economic Intelligence Center (EIC) ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่ 28.3 ล้านคนในปี 2566 จากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับสูงและจีนมีแนวโน้มทยอยผ่อนคลายนโยบาย Zero-Covid โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยตั้งแต่เดือนมกราคมนี้
สำหรับตรุษจีนปีนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เตรียมงบประมาณ 150 ล้านบาท จัดแคมเปญใหญ่ “THE MALL GROUP HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 JOY LUCK LOVE” ตกแต่งทั่วทั้งศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ถ่ายทอดผ่าน “กระต่าย” ปีนักษัตรประจำปี 2566 ภายใต้ Concept “โชคดีปีเถาะ เหาะรับเฮง” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีเถาะเริ่มต้นปีใหม่ พร้อมจัดเต็มทั้งโปรโมชั่นพิเศษทั้งห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า

ห้างสรรพสินค้ากลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ฉลองเทศกาลตรุษจีน รับปีกระต่าย จัดแคมเปญ ”HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 : JOY LUCK LOVE” นำสุข นำเฮง นำรัก พิเศษสำหรับสมาชิก M Card และ ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M VISA ช้อปรับพอยท์เพิ่มรวมสูงสุด 40,000 M Point

เพื่อมอบความคุ้มค่าทุกการช้อปให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ร่วมกับ พันธมิตรบัตรเครดิต ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน จัดแคมเปญ “HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023: JOY LUCK LOVE” นำสุข นำเฮง นำรัก ระหว่างวันที่ 13 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2566 มอบโปรสุดปัง ให้ลูกค้ามั่งคั่ง ร่ำรวย ตลอดปีกระต่าย กับโปรโมชั่นสุดพิเศษเมื่อช้อปภายในห้างฯ อาทิ



· สินค้าเคาน์เตอร์ปกติ ลดสูงสุด 30%

· รวยทรัพย์ รับพอยท์ รวมสูงสุด 40,000 M Point ทุกสุดสัปดาห์ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯ ครบ 3,000 บาท - 40,000 บาท ขึ้นไป/วัน สมาชิกบัตร M Card รับเพิ่มสูงสุด 20,000 M Point และ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต SCB M VISA รับเพิ่มสูงสุด 20,000 M Point ตลอดรายการ (เฉพาะที่ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นแผนก Power Mall และ Gourmet Market)

· 5 TOP SPENDERS รับฟรี ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง รวมมูลค่า 2.6 แสนบาท เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯ ขั้นต่ำ 100,000 บาทขึ้นไป (รวมแผนก Power Mall และ Gourmet Market)

· พิเศษ วันที่ 13-22 ม.ค.66 รับฟรี เซ็ทซองอั่งเปานำสุขลิมิเต็ดอิดิชั่น มูลค่า 150 บาท เมื่อช้อปครบ 1,500 บาท ขึ้นไป/ใบเสร็จ (รวมแผนก Power Mall และ Gourmet Market)

· ลดเพิ่มหรือรับคืนรวมสูงสุด 33% จากบัตร M Card และ บัตรเครดิตชั้นนำ



พิเศษ HAPPY BUNNY DAY วันกระต่ายตื่นช้อป 27 ม.ค.- 1 ก.พ.66

· สินค้าเคาน์เตอร์ปกติ ลดสูงสุด 50%

· รวยทรัพย์ รับพอยท์ทุกวัน รวมสูงสุด 40,000 M Point เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯ ครบ 3,000 บาท - 40,000 บาท ขึ้นไป/วัน สมาชิกบัตร M Card รับเพิ่มสูงสุด 20,000 M Point และ เมื่อใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิต SCB M VISA รับเพิ่มสูงสุด 20,000 M Point ตลอดรายการ (เฉพาะที่ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นแผนก Power Mall และ Gourmet Market)

· รับฟรี Heng Calendar ปฏิทินในรูปแบบออนไลน์ สามารถลงทะเบียนรับผ่าน M Card Application เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯครบ 2,000 บาท ขึ้นไป/วัน (รวมแผนก Power Mall และ Gourmet Market)

· เพียงแลกคะแนนสะสม 230 M Point ผ่าน M Card Application แลกรับ E-COUPON มูลค่า 100 บาท

ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ทุกสาขา จัดแคมเปญ “THE MALL SHOPPING CENTER HAPPY CHINESE NEW YEAR” เฮงรับตรุษจีน “ปีเถาะ เหาะรับทรัพย์” สะสมยอดใช้จ่ายในศูนย์ฯ รับทองคำ แจกรวม 18 รางวัล และของรางวัลมากมายรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ บัตรเครดิตเอสซีบีเอ็ม วีซ่า (SCB M VISA), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด จัดแคมเปญ “THE MALL SHOPPING CENTER HAPPY CHINESE NEW YEAR” ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน “โชคดีปีเถาะ เหาะรับทรัพย์-เหาะรับเฮง-เหาะเจี๊ยะ”

เหาะรับทรัพย์ สะสมยอดใช้จ่ายในศูนย์ฯ รับทองคำ 18 รางวัล , บัตรกำนัลศูนย์การค้า , Heng Calendar ปฎิทินเสริมความเฮง และของรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 13 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา

· ใช้จ่ายในศูนย์ฯครบ 100,000 บาท รับทอง : สิทธิพิเศษสำหรับ ลูกค้า M CARD และ SCB M VISA 18 ท่านแรกที่สะสมยอดใช้จ่ายตลอดแคมเปญครบ 100,000 บาทขึ้นไป รับทองคำ 1 สลึง รวม 18 รางวัล รวมมูลค่า 137,700 บาท

· Everyday Promotion : ลูกค้า M CARD รวมใบเสร็จใช้จ่ายในศูนย์ฯ ครบ 3,000 บาท รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่า 200 บาท , สิทธิพิเศษ ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M VISA ช้อปครบทุก 3,000 บาท รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ มูลค่า 300 บาท , สมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับ แลก 15 SMILE POINTS รับบัตรกำนัลห้างฯ มูลค่า 100 บาท กดรับสิทธิ์ผ่าน MTL Click Application

· Chinese New Year Weekend : พิเศษเฉพาะช่วงตรุษจีน วันที่ 18 – 22 มกราคม 2566 (5 วัน) รับเพิ่ม 999 M Point สำหรับลูกค้า M CARD และ SCB M VISA เมื่อช้อปในศูนย์ฯ ครบ 3,000 บาทขึ้นไป

· รับฟรี! Heng Calendar ปฎิทินเสริมความเฮงทางออนไลน์ สำหรับลูกค้า M CARD ช้อปในศูนย์ฯครบ 2,000 บาทขึ้นไป ช่วงวันที่ 27 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2566 (5 วัน) กดรับสิทธิ์ผ่าน M Card Application

· รับฟรี! ชุดเซ็ทซองอั่งเปา ลิมิเต็ด อิดิชั่น สำหรับลูกค้า M CARD ช้อปในศูนย์ฯครบ 1,000 บาทขึ้นไป

· The Mall X SCB M DINING สมาชิก M Card อิ่มอร่อยกับร้านอาหารในศูนย์ฯครบ 1,000 บาท ขึ้นไป รับบัตรกำนัลรับประทานอาหารของศูนย์ฯมูลค่า 100 บาท, ลูกค้า SCB M VISA รวมใบเสร็จร้านอาหารในศูนย์ฯ ครบ 1,000 บาท ขึ้นไป รับบัตรกำนัลรับประทานอาหารของศูนย์ฯ มูลค่า 150 บาท พิเศษ!! ช่วงตรุษจีน EXTRA ANGPAO CNY WEEKEND เฉพาะวันที่ 18 - 22 มกราคม 2566 (5 วัน) ลูกค้า SCB M VISA รวมใบเสร็จร้านอาหารในศูนย์ครบ 2,000 บาท ขึ้นไป รับบัตรกำนัลรับประทานอาหารของศูนย์ฯ มูลค่า 400 บาท รวมทั้งยังมีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB M VISA รับส่วนลด และสิทธิพิเศษจากร้านอาหารที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 13 มกราคม 2566 – 2 มีนาคม 2566 ที่ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา



นอกจากนี้ พบกับกิจกรรมพิเศษเสริมความสิริมงคลให้กับลูกค้าตลอดเทศกาลตรุษจีน



“เหาะรับเฮง” ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีเถาะทองมหามงคล ครั้งแรกกับวิหารสวรรค์เจ้าแม่ทับทิม ทับทิม ที่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดยได้จำลองพื้นที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 ให้กลายเป็น วิหารสวรรค์เจ้าแม่ทับทิม หรือเทพเจ้าหม่าโจ้ว เทพเจ้าประจำปีเถาะ แกะจากไม้กฤษณามงคลเบิกเนตร มาจากวัดเจ้าแม่ทับทิม ทินโฮ่ว (Tin Hau Temple) เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นวัดที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ภายในวิหารสวรรค์ศาลเจ้าแม่ทับทิม อัญเชิญองค์เทพ รวมกว่า 15 องค์ ที่ผ่านการทำพิธีเบิกเนตรเพื่อให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนได้สักการะ พร้อมร่วมพิธีแก้ชง สะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา โดยปีนี้ได้นำเทคโนโลยีกับความเชื่อมาผสมผสานกัน จัดให้บูชาองค์เทพด้วย การจุดธูปขอพรไร้ควัน ผ่านโลกดิจิทัล รับเฮงแบบปังๆ กับ MCard Privilege - MPoint และของมงคล อาทิ ฮู้มงคลเจ้าแม่ทับทิม แผ่นทองวัดกังหัน น้ำส้มมงคล ภายในงาน มีจำหน่ายชุดพิธีกรรมต่างๆ อาทิ ชุดไหว้เทพเจ้า, ชุดทำบุญพะเก่ง และชุดสะเดาะเคราะห์ (สำหรับแก้ปีชง) พร้อมทำพิธีแก้ชง โดยสมาคมเต็กก่า, เครื่องรางนำโชคเสริมดวงชะตาตลอดปีเถาะ
ทำพิธีปลุกเสกจากฮ่องกง อาทิ จี้กังหันวัดแชกงหมิว ฯลฯ รวมทั้งกิจกรรมผูกด้ายแดงพระเทพเจ้าหยุคโหลว เสริมดวงความรัก, เอาใจสายมูกับการดูดวงเช็คดวงชะตาจากหมอดูหลากหลายศาสตร์ พร้อมพบโปรโมชั่น HAPPY HEAVEN ภายในงาน สมาชิกบัตรเครดิต SCB M VISA ช้อปในศูนย์ฯ และห้างฯ ครบ 500 บาทขึ้นไป รับชุดไหว้แก้ชง หรือชุดไหว้เสริมดวง มูลค่า 100 บาท งานจัดระหว่างวันที่ 18 – 29 มกราคม 2566 ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 4 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน



“เหาะเจี๊ยะ” ลิ้มรสเมนูจักรพรรดิ อภิมหาเฮง คัดสรรอาหารมงคลการันตีความอร่อยจากภัตตาคาร ร้านอาหารชื่อดังระดับตำนานทั่วฟ้าเมืองไทยและและร้านอาหารชั้นนำในศูนย์การค้ารวมกว่า 200 ร้านค้า 1,000 เมนูใน HAPPY CHINESE MARKET ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคารหลิวเซียงฟง , ภัตตาคารทองฟู , ภัตตาคารฮองมิน,จกโต๊ะเดียว, ขาหมูโบราณ กระทู้, ข้าวหน้าไก่แซ่พุ้น, Hawker Chan, โตเป็ดย่าง, ขาหมูแซ่โล้ว , โกเที้ยมฟาร์ม สุราษฎร์ , กุ้งตะกร้าเศรษฐี , GOKFAYUEN (กุ๊กฝ้าหยุ่น) , ท่านพ่อ , หอยจ๊อปูแม่วรรณา , Lek's Mother's Restaurant , ING TeaHouse , อาฟู เป็ดย่าง, ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ๙ ชั้น , เจ๊ทิพย์ เต้าหู้ทอดสามย่าน , เอี๊ยบเท่งอิ่ว, 9 กุ้งอบ ,ชาเซียมเฮงฮวด เยาวราช , โจ๋สั่น , หอมฉุยข้าวมันไก่สิงคโปร์ , จินหลง สุกี้โบราณ , ละมุนเกี๊ยว, ยุ้ยเผือกทอด เสาชิงช้า , หมูกรอบอากง, SunPuff Bakery , อาม่า ราดหน้าเส้นกรอบในตำนาน และ
The Gold Leaf Chinese Restaurant นอกจากนี้ ยังรวบรวมของเสริมสิริมงคล สินค้าไลฟ์สไตล์นำโชคเสริมดวงให้สายมูเลือกช้อปมากมาย พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน

- สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต SCB M VISA ช้อปหรือรับประทานอาหารในศูนย์ฯ และห้างฯ ครบ 500 บาทขึ้นไป รับบัตรกำนัลสำหรับใช้จ่ายภายในงาน มูลค่า 100 บาท และแลกคะแนนสะสม 399 M POINT รับบัตรกำนัลสำหรับใช้จ่ายภายในงาน มูลค่า 100 บาท

- สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ แลก 5 SMILE POINTS รับพวงกุญแจกังหัน ปลุกเสกจากวัดแชกงหมิว มูลค่า 399 บาท, สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ระดับ The Ultimate, Beyond Prestige และ Prestige รับฟรี! เมนูมงคลมูลค่า 250 บาท, สมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับ สถานะ Smile รับฟรี! เมนูมงคลมูลค่า 150 บาท กดรับสิทธิ์ผ่าน MTL CLICK APPLICATION

- สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าไทยน้ำทิพย์ รับทันที เครื่องดื่ม SOFT DRINK (โค้ก, แฟนต้า, สไปรท์) มูลค่า 25 บาท เมื่อซื้อเมนูอาหารภายในงาน ครบ 80 บาท / ร้าน, รับฟรี ส่วนลด มูลค่า 20 บาท ใช้เป็นส่วนลด สำหรับซื้อ Coke Mixology หรือ เครื่องดื่ม Soft Drink (โค้ก, แฟนต้า, สไปรท์) กดรับสิทธิ์ผ่าน M Card Application

- สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า ISUZU รับฟรี! คูปองส่วนลด มูลค่า 50 บาท เพียงแสดงกุญแจรถยนต์ อีซูซุ รุ่นใดก็ได้เพื่อใช้จ่ายภายในงาน พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่จองรถอีซูซุ ที่บูธอีซูซุ ภายในงาน รับทันที จี้กังหันวัดแชกงหมิว มูลค่า 500 บาท จำนวนจำกัด 40 สิทธิ์ (เฉพาะที่เดอะมอลล์ บางแค และบางกะปิ)



งานจัดระหว่างวันที่ 17 -25 มกราคม 2566 ที่บริเวณ M EVENT HALL ชั้น B เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ , M EVENT HALL ชั้น G เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน , GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค และเดอะมอลล์ บางกะปิ และ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช



ครั้งแรกกับการเปิดตัวเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ซุปตาร์ชื่อดัง “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่” ที่นำพาความ มั่งคั่ง ความเฮงรับตรุษจีนปีเถาะ 2023 , ตื่นตาตื่นใจกับ IMPORT SHOW เหาะลัดฟ้ามาที่เดอะมอลล์ กับโชว์กายกรรม “จางไฮ่หลุน” เหาะบนเก้าอี้สูง 7 เมตร ในงานพิธีเปิด วันที่19 มกราคม 2566 เวลา 16.30 น. ที่ GRAND HALL ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ , 20 มกราคม 2566 เวลา 15.00 และ 18.00 น. ที่ GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค , 21 มกราคม 2566 เวลา 13.00 และ 17.00 น. ที่ GRAND HALL ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ , 22 มกราคม 2566 เวลา 13.00 และ 17.00 น. ที่ GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค

การแสดงเชิดสิงโตมังกร 19 มกราคม 2566 เวลา 16.30 น. ในงานพิธีเปิด GRAND HALL ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ , 21 และ 22 มกราคม 2566 เวลา 16.00 - 18.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้า

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ , เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน , เดอะมอลล์ บางแค และ เดอะมอลล์ บางกะปิ, วันที่ 23 และ 24 มกราคม 2566 เวลา 16.00 - 18.00 น. บริเวณหน้าศูนย์การค้า เดอะมอลล์ โคราช

ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมจีน อาทิ หงส์คู่มังกร กลองสุริยัน ที่เดอะมอลล์ บางแค เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์ โคราช และชมการแสดงงิ้ว วันที่ 20-22 มกราคม 2566 เวลา 18.00-20.00 น. ที่หน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ

รวมทั้งกิจกรรมประกวด CHINESE COSPLAY COMPETTION วันที่ 21 มกราคม เวลา 14.00 - 17.00 น. ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช และ CHINESE COVER DANCE ประกวดเต้นสไตล์จีน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท (รวม 2 กิจกรรม) วันที่ 22 มกราคม เวลา 13.00 - 18.00 น.ที่ GRAND HALL ชั้น G เดอะมอลล์ บางกะปิ



เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ชวนเสริมทรัพย์ รับโชค ขานรับพลังเฮง รับปีเถาะกับป๊อปอัพสโตร์สุดคูล JOY LUCK LOVE 2023 : ร้านชำ นำเฮง



เบิกฤกษ์ เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนปีเถาะ เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ชวนเสริมพลังเฮงรอบด้าน รับพลังสุดปังตลอดปีกระต่ายทอง พร้อมสัมผัสไฮไลท์กับป๊อปอัพสโตร์สุดคูล ในกิจกรรม JOY LUCK LOVE 2023 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ร้านชำ นำเฮง” ด้วยการรังสรรค์ประสบการณ์รับความเฮงรูปแบบใหม่ใจกลางห้างฯ ที่ E-SPACE ชั้น 2 เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ PROMOTION 1 ชั้น 1 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ภายในงานพบกับหลากหลายไอเทมสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษเสริมพลังความเฮง ทั้งแฟชั่น,บิวตี้, ไลฟ์สไตล์ สินค้านำโชคเสริมดวงของแต่ละนักษัตร คัดสรรตามตารางมงคลปี 2566 โดยหมอบอย เคลียร์ชัด จาก HOROSOCIETY พร้อมจัดโซนมาให้เลือกช้อปครบทุกไอเทม เสริมพลังเฮงทั้งความรัก การงาน และสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมเสริมความเฮงสุดคูล พิเศษ!! เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป จากแผนก BEAUTY HALL , MEN'S & WOMEN'S FASHION, LINGERIE SALON และ THE LIVING รับสิทธิ์ดูดวงกับนักพยากรณ์ชื่อดังจาก HOROSOCIETY ตั้งแต่ เวลา13.00 -19.00 น. อาทิ สาขาเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ พบกับ อ.มงคล รอดเที่ยงธรรม (21 ม.ค.), หมอบอย เคลียร์ชัด (22 ม.ค.), หมอฝ้าย The Magic Queen (28 ม.ค.), หมอ
ท็อป ซีเคร็ท (29 ม.ค.)สาขา เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน พบกับ อาจารย์บาส 7TH SENSE (วันที่ 21 ม.ค.) และหมอเชอร์ เป๊ะเว่อร์ (วันที่ 22 ม.ค.) นอกจากนี้ เมื่อช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป รับปฏิทินสายมู ปักหมุดฤกษ์มงคล “นำเฮง” มูลค่า 990 บาท (จำนวนจำกัดต่อสาขา) และรับอั่งเปามหาเฮง มูลค่าสูงสุด 500 บาท (จำนวนจำกัดต่อสาขา) สำหรับซื้อสินค้าที่แผนก MEN'S & WOMEN'S FASHION, LINGERIE SALON, THE LIVING เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2566

นอกจากนี้ กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ กูร์เมต์ อีทส์ กลุ่มธุรกิจอาหาร ในกลุ่ม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมเฉลิมลองเทศกาลตรุษจีนปีเถาะ จัดแคมเปญ “HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 : เสกสุข รวยทรัพย์ รับโชค” ตั้งแต่วันที่ 12 – 21 มกราคม 2566 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ กูร์เมต์ อีทส์ ทุกสาขา ตอกย้ำความเป็นผู้นำชุดไหว้ระดับพรีเมียม และศูนย์รวมความอร่อยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยจัดทัพสินค้าสุดครบครันด้วย 8 ชุดไหว้ ได้แก่ ชุดไหว้สุดพรีเมียม ราชามหาโชค, ชุดไหว้เสกสุข รวยทรัพย์ รับโชค (ซาแซ S-PURE), ชุดไหว้ ซีฟู้ดบารมีเศรษฐีเงินล้าน (แก ฮั้ว บ่วง สื่อ เฮง), ชุดไหว้รวยมหัศจรรย์ทันใจ , ชุดไหวับันดาลสุข (โหงวเปี๊ยะ) , ชุดไหว้มงคลมหาโชค (โหงวก้วย) , ชุดไหว้วาสนาพารวย (ส้มมงคล), ชุดไหว้เปิดประตูเศรษฐี (ชุดไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยะ) และสินค้ามงคลเสริมดวงความหมายดี ชุดกระดาษไหว้ อุปกรณ์การไหว้ที่ครบครันไว้ให้บริการ และให้บริการเรื่องข้อมูลการไหว้ที่ถูกต้องตามประเพณีอีกด้วย พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ รับฟรี กระเป๋าเก็บความเย็นเสกสุข Happy Chinese New Year Cooler Bag มูลค่า 499 บาท (จำนวณจำกัด) เมื่อซื้อชุดไหว้เสกสุข รวยทรัพย์ รับโชค (ซาแซ S-PURE) นอกจากนี้ยังมีเมนูพิเศษซุปหูฉลาม จากภัตตาคารไทยสกาล่าหูฉลาม ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน เฉพาะที่เคาน์เตอร์ You Hunt We Cook สาขาเอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์ และพารากอน (จำนวนจำกัด 100 เซ็ต / ตลอดรายการ) สามารถสั่งจองชุดไหว้ล่วงหน้าได้ ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา, Call To Order หรือสั่งผ่านแอปพลิแคชั่น Grab Mart, Food Panda Mart, Lineman Mart, หรือสั่งผ่าน www.GourmetMarketThailand.com พร้อมอิ่มหนำสำราญเสริมความเฮงกับ 8 เมนูมงคลจากร้านดัง ในกูร์เมต์ อีทส์ อาทิ เมนูใหม่ฉลองตรุษจีน เป็ดอบใบชา จากฮั่วเซ่งฮง, หมูรวยทรัพย์ (หมูสามชั้นทอดน้ำปลา) จาก Peppery Thai Bistro, หมี่ฮกเกี้ยนผัดซอส XO หอยเชลล์ จากแสนยอด Wok, บะหมี่ห้าเซียน จากภัตตาคารเชียงการีลา, ทรัพย์ถังทอง จาก กิน กิน ซีฟู้ด, ราดหน้าจักรพรรดิ จาก เคี้ยงเอ็มไพร์, ลูกชุบส้มยักษ์มงคล จาก ขนมไทยเก้าพี่น้อง และขนมส้มมงคลแมนดาริน จาก เบเกอรี่ ฮัท และพบกับเมนูและโปรโมชั่นพิเศษ จากร้านอาหารชั้นนำที่ร่วมรายการกว่า 100 ร้านค้า

พิเศษ M ONLINE APPLICATION จัดแคมเปญ “M ONLINE HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 : JOY LUCK LOVE” ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีกระต่ายทอง รวมแบรนด์สุด Exclusive ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้า ช้อปสุดคุ้มสูงสุด 80% กรอกโค้ดลดเพิ่มสูงสุด 1,200 บาท ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M VISA ลดเพิ่มสูงสุด 1,200 บาท รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท เมื่อช้อปผ่านบัตรเครดิต SCB และ Card X, KCC หรือแบ่งชำระเบาๆ 0% นานสูงสุด 12 เดือน และสิทธิพิเศษจากพาร์เนอร์อีกมากมาย พิเศษ!! บริการห่อของขวัญและจัดส่งฟรีทั่วไทยทุกคำสั่งซื้อเมื่อช้อปตามเงื่อนไข* พร้อมบริการส่งด่วน ภายใน 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ช้อปสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอุ่นใจกับความคุ้มครองจาก M ONLINE CARE* เพียงคลิกซื้อผ่าน M ONLINE APP
แอปพลิเคชันเดียวที่ให้คุณช้อปสินค้าได้ครบทุกห้าง เสมือนยกห้างฯ เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ พารากอน และเอ็มไลฟ์สโตร์ มาไว้บนมือถืออยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 13 – 29 มกราคม 2566 สั่งซื้อและตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมผ่าน https://monline.com/th/downloadapp หรือดูรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/MonlineThailand/ และ M Card Application

ทั้งนี้ นางสาววรลักษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ ตรุษจีนปันี้ เรามั่นใจว่าแคมเปญใหญ่ “THE MALL GROUP HAPPY CHINESE NEW YEAR 2023 JOY LUCK LOVE” จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าสร้างยอดขายตลอดเทศกาลตรุษจีนได้กว่า 3,000 ล้านบาท และคาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวน Traffic ให้กับศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 10 %
จากช่วงเวลาปกติ”

แกะรอยกลยุทธ์การตลาด Chester’s ครบรอบ 34 ปี เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

posted Nov 21, 2022, 8:36 PM by Maturos Lophong



แกะรอยกลยุทธ์การตลาด Chester’s ครบรอบ 34 ปี เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
หยิบประเด็นฮ็อตออกคาแรคเตอร์ชูความหลากหลายทางรสชาติ
และเปิดตัวเมนู “ไอติมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่” สร้างเอ็นเกจเมนท์ถล่มทลาย


Chester’s (เชสเตอร์) ขยับตัวครั้งใหญ่ กับแคมเปญฉลองครบรอบ 34 ปี ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ ในการขยับเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่

แรกเริ่ม แบรนด์ปล่อยทีเซอร์เรียกความสนใจ ด้วยวิธีหยิบประเด็นที่เป็นเทรนด์ในหมู่คนรุ่นใหม่ทั่วโลก อย่าง Diversity มาเป็น Topic ชวนคุย แต่พูดอย่างได้ใจสายกิน.. “Celebrate Diversity of Tongues - ฉลองแด่ความหลากหลายทางลิ้น” ผ่าน social post ในเฟซบุ๊คของแบรนด์ ตีความคาแรคเตอร์ของลิ้นประเภทต่างๆ เป็นภาพ illustration ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็น..ลิ้นผู้หญิง แต่ไม่อินของหวาน, ลิ้นหลากสี ที่เชื่อเรื่องเสรีภาพความอร่อย, ลิ้นคุณหนู อร่อยกับวัตถุดิบชั้นดี เพราะที่ในกระเพาะลิมิเต็ดจริงๆ, ลิ้นนักรีวิว เรื่องกินเรื่องใหญ่ แต่เรื่องรีวิวใหญ่กว่า ฯลฯ โดยเนื้อหากล่าวถึงการฉลองแด่ความหลากหลายทางลิ้น ก็เพราะลิ้นของแต่ละคนอร่อยกับรสชาติในมุมที่แตกต่างกัน จึงทำให้โลกนี้เกิดเมนูแปลกใหม่มากมาย ซึ่งเชสเตอร์เองเตรียมออกเมนูใหม่สุดปัง แบบ Exclusive ไม่เคยมีมาก่อน


เบื้องหลังความสำเร็จของเมนู ไอติมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่

ต่อมาแบรนด์ยังรักษาโมเมนตัมต่อเนื่อง โดยปล่อยคำใบ้รายวันให้แฟนเพจเข้ามาทาย ว่าเมนูใหม่ ที่ว่านี้คืออะไร? สร้างความตื่นเต้น ให้ชาวเน็ตร่วมสนุกและเฝ้ารอ จนกระทั่งเชสเตอร์เฉลยว่าเมนูสุด Exclusive นั้นคือ ‘เมนูไอติมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูsignature ยอดฮิตข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา และ ไก่ย่างสูตรเผ็ดเชสเตอร์ ของทางแบรนด์ มาแปลงโฉมเป็นไอติมนั่นเอง โดยได้แบรนด์ดัง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอติมอย่าง iberry มาร่วมคิดค้นพัฒนาสูตร จนเกิดเมนูไอติมรสชาติพิเศษ เป็นการผสมผสานความอร่อยของเมนูคาวหวาน ได้อย่างลงตัว

ความกล้าหาญของแบรนด์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะด้วยรสชาติที่ขึ้นชื่อว่า “ซอสน้ำปลา” ต้องยอมรับว่ามีทั้งแฟนคลับ คนที่ชอบเมนูของคาว และคนที่ไม่อินเลย แต่ชอบของหวานอย่างไอติม ทำให้เสียงแตกเป็น 2 ขั้วโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แบรนด์จึงปิ๊งไอเดียโปรโมทสุดกล้า โดยเปิดกว้างฟังเสียงโซเชียล ชวนคนกินมาตัดสินเองว่าลิ้มลองแล้วคุณ ‘จึ้ง’ หรือ ‘อึ้ง’ กันแน่? มีการปล่อยหนังที่เห็นบรรดาคนที่แบรนด์ชวนไปลิ้มรสไอติมครั้งแรก แต่ละคนที่ได้ชิมมี reaction ต่างๆ กัน ซึ่งสามารถช่วยเรียกกระแสให้คนไปชิมไอติมรสชาติ Exclusive นี้ตั้งแต่วันแรกที่วางขายที่ร้านเชสเตอร์ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และยังสร้าง engagement ให้ consumers เข้าไปออกความเห็นในเฟซบุ๊คเพจเชสเตอร์อย่างคึกคักเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมีทั้งคุนที่ชิม แล้วจึ้ง และ อึ้ง เพราะแต่ละคนอร่อยกับรสชาติในมุมที่แตกต่างกัน ถือว่าแคมเปญนี้ตอบโจทย์ไอเดียของแบนรด์และผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้ด้อย่างชัดเจน

ครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ซึ่งเชื่อว่า…นี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น ก้าวต่อไปของเชสเตอร์ จะงัดกระบวนท่าอะไร กลยุทธ์การตลาดแบบไหน ออกมาเซอร์ไพรส์ให้ได้ตื่นเต้นกันอีก ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด


#Chesters #34ปีเชสเตอร์ #ไอติมซอสน้ำปลาสุดเชส #จึ้งteam #อึ้งteam

JASPAL จัดแคมเปญฉลอง 50 ปี พร้อมเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ ปี 2566

posted Nov 21, 2022, 8:20 PM by Maturos Lophong





JASPAL จัดแคมเปญฉลอง 50 ปี

พร้อมเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ ปี 2566


JASPAL (ยัสปาล) ฉลองครบรอบ 50 ปี ตอกย้ำผู้นำแบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ออกคอลเลกชั่นลายโมโนแกรมพิเศษ พร้อมจัดแคมเปญเฉลิมฉลอง 50 ปีของแบรนด์ JASPAL อย่างยิ่งใหญ่แทนคำขอบคุณลูกค้า เพียงช้อปครบทุก 1,500 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยเผยแผนปี 2566 พร้อมรุกตลาดต่างประเทศ ปักหมุดเปิดสาขาแรกที่ประเทศกัมพูชา


วิลาสินี สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ JASPAL กล่าวว่า JASPAL เป็นแบรนด์แฟชั่น Ready to Wear สัญชาติไทยที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งจนได้รับการยอมรับในระดับสากล และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ทางแบรนด์จึงออกคอลเลกชั่นพิเศษ พร้อมลายโมโนแกรม ดีไซน์อักษร J รูปแบบ 3 มิติ วางซ้อนทับเป็นลวดลายที่ทันสมัยและคลาสสิก เข้ากับกลุ่มเจเนอเรชั่น ในส่วนของดีไซน์เน้นความหลากหลายทั้งแฟชั่นสตรีทแวร์ สมาร์ทแคชชวล และ บิซิเนสลุค เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของสุภาพสตรีและบุรุษ และยังมี Limited Items อย่าง t-shirt สี ขาว ดำ ประดับกลิตเตอร์สุดหรู ลายโลโก้ JASPAL และ ตัวเลข 50 สะท้อน Sophisticated Women and Men ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมก้าวสู่สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ พร้อมกันนี้ยังได้ทำแคมเปญโฆษณา Time Flies ภายใต้คอนเซปต์อดีต ปัจจุบัน และการก้าวสู่อนาคตของแบรนด์ ผ่านมุมมองช่างภาพแฟชั่นชื่อดัง Alexander Saladrigas (อเล็กซานเดอร์ ซาลาดิเกรส)





ทั้งนี้ แบรนด์ JASPAL ได้จัดแคมเปญฉลองครบรอบ 50 ปี เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีมาตลอด 50 ปี และกระตุ้นกำลังซื้อใส่ช่วงปลายปี เพียงลูกค้าช้อปครบทุก 1,500 บาท รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยรางวัลใหญ่เป็นทริปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน สำหรับ 2 ท่าน ด้วยที่นั่งบิสิเนสคลาส มูลค่า 250,000 บาท และรางวัลพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

​วิลาสินี สิงห์สัจจเทศ​กล่าวเพิ่มเติมเรื่องกลยุทธ์ตลอด 50 ปี ของยัสปาลว่า จากจุดเริ่มต้นของการเปิดร้าน JASPAL ครั้งแรกเมื่อปี 2515 ทางแบรนด์ได้มีการพัฒนาทั้งสินค้า ดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ทุกแฟชั่นไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่ครอบคลุมในหลายกลุ่ม ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน อย่างไม่หยุดนิ่ง โดยมีแนวคิดที่จะทำให้

แบรนด์มีภาพลักษณ์แบรนด์ระดับ Global ดูทันกับเทรนด์แฟชั่นของโลก แต่ดีไซน์ คุณภาพ และราคาคุ้มเหมาะกับกลุ่มลูกค้าคนไทย ดังนั้น แบรนด์จึงดึงซูเปอร์โมเดลระดับโลก อย่าง Cindy Crawford (ซินดี ครอว์ฟอร์ด), Claudia Schiffer (คลอเดีย ชิฟเฟอร์), Gisele Bündchen (จิเซล บุนเชน) จนต่อเนื่องมาถึงเซเลบริตี้ ซูปเปอร์สตาร์ระดับโลก อย่าง Kate Moss (เคต มอส), Milla Jovovich (มิลลา โยโววิช), Alexa Chung (อเล็กซา ชุง) มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งสร้างความฮือฮาและตอกย้ำจุดยืนของ JASPAL ในระดับ Global ได้อย่างชัดเจน




“ต่อมาเรามีแนวทางในการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มชาวต่างประเทศ โดยเน้นสร้างการรับรู้ด้วยการคอลลาบอเรชั่น (Collaboration) กับแบรนด์แฟชั่นระดับโกลบอล และศิลปิน อาร์ตทิสท์คนดังของโลก อาทิ คอลเลกชั่นพิเศษกับ Karl Lagerfeld (คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์), DVF (DIANE VON FURSTENBERG ไดแอน วอน เฟิร์สเทนเบิร์ก), Orla Kiely (ออร์ลา คีลี่), Andre (อังเดร) ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวสวีเดนชื่อดังระดับโลก , Hattie Stewart (แฮตตี้ สจ๊วต) ศิลปินชาวอังกฤษ, Lynnie Z (ลินนี่ ซี) อาร์ติสท์ชื่อดังจากลอนดอน, Megan Hess (เมแกน เฮส) นักวาดภาพประกอบด้านแฟชั่นและออกแบบกราฟิกฝีมือระดับโลก รวมไปถึง คาแรกเตอร์ยอดนิยมที่มีแฟนๆ ชื่นชอบทั่วโลก เช่น Smiley (สมายลี่), Disney (ดิสนี่ย์), Garfield (การ์ฟิลด์) และล่าสุดกับการคว้าลิขสิทธิ์ Official Licensed Products เป็นแบรนด์แฟชั่นเพียงหนึ่งเดียวในไทย ในการออกแบบร่วมกับทางฟีฟ่า กับสินค้าที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ “FIFA WORLD CUP QATAR 2022” ทำให้แบรนด์เริ่มมีฐานลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นแฟนของแบรนด์ที่เราคอลลาบอเรชั่นด้วย ทางแบรนด์จึงเห็นโอกาสว่า ในการพัฒนาและเติบโตในตลาดต่างประเทศได้ โดยในปี 2566 แบรนด์จะเดินเกมส์รุกตลาดแฟชั่นในต่างประเทศอย่างเต็มตัว โดยเริ่มเปิดสาขาที่กัมพูชาเป็นประเทศแรก” วิลาสินี กล่าวสรุป



สบู่จิ๊กซอว์ ME ร่วม 3 แคมเปญครั้งยิ่งใหญ่กับสยามพารากอน จัดโปรลดแรง 50 %

posted Oct 12, 2022, 1:39 AM by Maturos Lophong



สบู่จิ๊กซอว์ ME ร่วม 3 แคมเปญครั้งยิ่งใหญ่กับสยามพารากอน จัดโปรลดแรง 50 %

ทุกสูตรราคาสุดคุ้มสบายกระเป๋าคนช้อป เลือกซื้อได้ในเดือน ต.ค. – พ.ย. 65


บริษัท ตรี ตรีรัก จำกัด นำสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม สบู่ล้างหน้าจากสารสกัดธรรมชาติ มีมากถึง 25 สูตร หลากหลายสีสัน เลือกมิกซ์แอนด์แมทช์สูตรเองได้ ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย อุดมด้วยสรรพคุณเพื่อผิวพรรณที่ดี ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง ลดฝ้าให้จางลง รักษาปัญหาสิวและผดผื่น ทำให้ผิวรู้สึกแข็งแรงขึ้น ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสมากขึ้น การันตีคุณภาพทุกก้อน ร่วม 3 แคมเปญครั้งยิ่งใหญ่กับสยามพารากอน จัดโปรโมชั่นลดแรงสูงถึง 50 % ทุกสูตร ราคาสุดคุ้มสบายกระเป๋าคนช้อป เลือกซื้อได้ในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2565

คุณบุ๋ม-ตรีรัก รักการดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรี ตรีรัก จำกัด เจ้าของและผู้จัดจำหน่ายสบู่จิ๊กซอว์แบรนด์ ME เกรดพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า สบู่จิ๊กซอว์ ME ได้ร่วม 3 แคมเปญครั้งใหญ่กับห้างสยามพารากอน จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษมากๆ ลดสูงถึง 50% ทุกสูตร นานเกือบ 2 เดือน เป็นโปรแรงส่งท้ายปี 2565 ที่ได้ร่วมกับห้างสยามพารากอน เพื่อผู้บริโภคได้ช้อปของดี มีคุณภาพ สุดคุ้ม แต่ราคาสบายกระเป๋าของคนซื้อ จะซื้อเป็นของขวัญหรือของฝาก แทนความรักและความห่วงใยจากผู้ให้มอบแด่คนที่รัก หรือเตรียมเป็นขวัญปีใหม่ก็ดี 

สบู่จิ๊กซอว์ ME มากด้วยสรรพคุณเพื่อผิวพรรณที่ดีขึ้น ห่อบรรจุอย่างดี ได้มาตรฐาน มีอายุการเก็บรักษาและใช้งานได้ภายใน 2 ปี การันตีคุณภาพทุกก้อน

โปรโมชั่นสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม by คุณบุ๋ม ตรีรัก รักการดี ลด 50% ทุกสูตร ราคาพิเศษเหลือเพียงก้อนละ 47.50 บาท จากปกติก้อนละ 95 บาท ได้ร่วมเทศกาลช้อปปิ้ง 3 แคมเปญครั้งยิ่งใหญ่กับห้างสยามพารากอน สบู่จิ๊กซอว์ ME มีจำหน่าย ณ ชั้น 4 โซน Bath Accessories แผนก The Living ในช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2565 มีดังนี้

1. แคมเปญ Shop Ti Mis Ta โลกที่ดีคือโลกที่มีเซลล์ : เลือกซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ลดราคา 50% ทุกสูตร ได้ในวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ ระหว่างวันที่ 7 - 9 ตุลาคม 2565 / 13 - 16 ตุลาคม 2565 / 21 - 24 ตุลาคม 2565

2. แคมเปญ Bangkok Shopping Festival “Black Weekend” : เลือกซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ลดราคา 50% ทุกสูตร ได้ในวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ ระหว่างวันที่ 28 - 30ตุลาคม 2565 / 11 - 13 พฤศจิกายน 2565 / 25 - 27 พฤศจิกายน 2565


3. แคมเปญ THE LIVING LIFE INSPIRED GRAND OPENING 2022 : เลือกซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ลดราคา 50% ทุกสูตร ได้ในระหว่างวันที่ 1 - 27 พฤศจิกายน 2565





สบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม มีให้เลือกมากถึง 25 สูตร มีส่วนผสมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป แต่ละสูตรมีขนาดปริมาณก้อนละ 30 กรัม 

แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มน้ำหอม 9 กลิ่น 2. กลุ่มคุณสมบัติของผิวพรรณ 10 สูตร และ 3. กลุ่มสครับ 6 สูตร

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์สบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม ทั้ง 25 สูตร ได้ที่ Facebook : TRI_Gangsters, Line : @tri_gangsters และเว็บไซต์ http://trigangsters.com 


หรือติดต่อสอบถามที่โทรศัพท์ 02-040-1466 และ 063-351-9649

“ข้าวหงษ์ทอง” บุกธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ประกาศร่วมทุน “นิ่มนิ่ม” เสริมทัพผลักดันนวัตกรรม “เส้นไข่ขาว”

posted Oct 5, 2022, 1:41 AM by Maturos Lophong


“ข้าวหงษ์ทอง” บุกธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ประกาศร่วมทุน “นิ่มนิ่ม”
เสริมทัพผลักดันนวัตกรรม “เส้นไข่ขาว” ลุยตลาด พร้อมเดินหน้าส่งออกทั่วโลก

บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารภายใต้แบรนด์ “หงษ์ทอง” เดินเกมรุกบุกตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ประกาศร่วมทุนกับ บริษัท แข็งแรงทุกวัน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เส้นไข่ขาวแบรนด์ “นิ่มนิ่ม” นวัตกรรมของคนไทยครั้งแรกของโลก ผนึกกำลังเสริมความแข็งแกร่งพานิ่มนิ่มลุยตลาดทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าส่งออกสู่ตลาดโลก ตั้งเป้าปี 2565 ยอดขายเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 3 เท่า ส่วนปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเท่าตัว

นายกัมปนาท มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารคุณภาพที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล กล่าวว่า เทรนด์ที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคต้องการทางเลือกในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพกลายเป็นตลาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการสร้างพอร์ตธุรกิจใหม่ไปสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ โดยได้ร่วมทุนกับบริษัท แข็งแรงทุกวัน จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เส้นไข่ขาวแบรนด์นิ่มนิ่ม ซึ่งเป็นนวัตกรรมอาหารครั้งแรกของโลก เพื่อตอบโจทย์ผู้ป่วยที่ต้องการโปรตีนในปริมาณสูง กลุ่มคนรักสุขภาพ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่แพ้แป้งสาลี ให้มีทางเลือกในการรับประทานโปรตีนในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่จำเจ




“การร่วมทุนครั้งนี้เป็นการร่วมทุนครั้งแรกของบริษัทฯ โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 25% ซึ่งบริษัทฯ จะนำศักยภาพและประสบการณ์จากการทำตลาดข้าวหงษ์ทอง ทั้งด้านของช่องทางการจัดจำหน่าย องค์ความรู้ทางการตลาด รวมถึงเทคโนโลยีทางการผลิต เพื่อไปเสริมทัพผลักดันให้นิ่มนิ่มเติบโตยิ่งขึ้น มีกำลังการผลิตมากขึ้น สามารถพัฒนานวัตกรรมอาหารใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการสนับสนุนและจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกับข้าวหงษ์ทอง เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้นิ่มนิ่มมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายกัมปนาท กล่าว

นางอุมาพร บูรณสุขสมบัติ กรรมการ บริษัท แข็งแรงทุกวัน จำกัด ผู้ดูแลฝ่ายวิจัยและพัฒนา และผู้คิดค้นนวัตกรรมเส้นไข่ขาวแบรนด์นิ่มนิ่ม กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการพัฒนาเส้นไข่ขาวเกิดจากการเห็นปัญหาของผู้ป่วยโดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตและมะเร็งที่ต้องการโปรตีนในปริมาณสูง แต่ถูกจำกัดด้วยการรับประทานโปรตีนจากไข่ขาวรูปแบบเดิม ๆ จึงได้คิดค้นเส้นโปรตีนจากไข่ขาวขึ้น โดยมีให้เลือก 3 ชนิด คือ เส้นไข่ขาวที่มีลักษณะคล้ายขนมจีน เส้นหมี่ และเส้นสปาเกตตี้ โดยได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และยังมีร้านอาหารชื่อดัง เช่น Charna ในเครือฟู้ดแพชชั่น นำนิ่มนิ่มไปพัฒนาเป็นเมนูอาหารออกจำหน่าย นอกจากนี้ นิ่มนิ่มยังประสบความสำเร็จด้วยการได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รองชนะเลิศอันดับ 1 ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และได้รับรางวัลชนะเลิศ Best of The Best 2 รางวัลซ้อนจาก Agro Beyond Academy และ Genius Academy โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม



นางสาวปณัสสา กาญจนวิเศษ กรรมการ บริษัท แข็งแรงทุกวัน จำกัด ผู้ดูแลฝ่ายการขายและการตลาดแบรนด์นิ่มนิ่ม กล่าวว่า ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้นิ่มนิ่มมียอดขาย 24 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 100% จากปี 2564 และคาดการณ์ว่ารวมทั้งปีจะมียอดขายกว่า 40 ล้านบาท ส่วนปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 80 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายรายการ รวมทั้งจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่ม Mass มากขึ้น โดยตลาดในประเทศ จะเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศ มีแผนที่จะส่งออกมากขึ้น โดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างประเทศ เพื่อให้นิ่มนิ่มป็นที่รู้จักในวงกว้างทั่วโลก ซึ่งการจับมือกับข้าวหงษ์ทองจะทำให้แบรนด์นิ่มนิ่มแข็งแรง น่าเชื่อถือ พร้อมที่จะเป็นอาหารนวัตกรรมโดยคนไทยที่บุกตลาดอาหารสุขภาพโลก

แถลงข่าวความร่วมมือครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณโสพรรณ มานะธัญญา ประธานบริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอสซีเอ็ม ฟูดส์ จำกัด, คุณทิศพล มานะธัญญา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเอสซีเอ็ม ฟูดส์ จำกัด พร้อมด้วย ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน), คุณชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ คุณรัฐ ตระกูลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ตัวแทนจากร้านอาหาร Charna ในเครือฟู้ดแพชชั่นมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของนิ่มนิ่มในการร่วมทุนกับข้าวหงษ์ทอง

ทั้งนี้ ผู้สนใจผลิตภัณฑ์นิ่มนิ่ม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nimnimnoodle.com หรือ Facebook: https://web.facebook.com/nimnimnoodleofficial

Style with Comfort สบายอย่างมีสไตล์ บาจา (Bata) เดินเกมสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ พลิกภาพ “รองเท้าคนแก่-แบรนด์เก่า” สู่ “ความเก๋า-ดูคูล”

posted Sep 5, 2022, 1:37 AM by Maturos Lophong   [ updated Sep 5, 2022, 2:17 AM ]





Style with Comfort สบายอย่างมีสไตล์

บาจา (Bata) เดินเกมสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่


พลิกภาพ “รองเท้าคนแก่-แบรนด์เก่า” สู่ “ความเก๋า-ดูคูล”



สำหรับคน GEN X GEN Y แล้ว หลายคนยังคงจำภาพรองเท้านักเรียนคู่แรกในชีวิต และอีกหลายคนก็อาจตัดสินใจเลือกรองเท้า”บาจา”ให้เป็นรองเท้าคู่ใจตลอดช่วงชีวิตในวัยเรียน

แม้ว่าเมื่อเติบใหญ่ขึ้น พ้นช่วงวัยเรียนบางคนก็อาจจะห่างหายจากรองเท้าที่เคยเป็นแบรนด์คู่ใจไปบ้าง แต่บางครั้ง บางครา หลายคนก็อาจมี MOMENT ที่อยากกลับไปแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนร้านบาจา แล้วแอบอมยิ้ม นึกถึงภาพความทรงจำครั้งหนหลังด้วยความสุขใจ



-การตลาดในอดีตเชื่อมสู่โลกอนาคต

ภาพที่ลำดับมาให้เห็นข้างต้น สอดรับกับ ข้อมูลของ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) ที่รายงานแนวโน้มการตลาดชุดใหม่ผ่านวิจัย “NOSTALVERSE การตลาดในอดีตเชื่อมสู่โลกอนาคต” พบการถวิลหาอดีตของผู้บริโภค สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้วยความผูกพัน และพัฒนากลายเป็นกลยุทธ์ใหม่ทางธุรกิจสู่อนาคตได้อย่างน่าประหลาดใจ หลังสำรวจข้อมูลอินไซต์มุมมองของผู้บริโภคต่างเจเนอเรชัน X,Y และ Z ถึงความทรงจำในอดีต แบรนด์ในความทรงจำกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 และความคิดเห็นต่อโลกอนาคต Metaverse จากข้อมูลวิจัยพบว่า คนไทย 3 ใน 4 มีความทรงจำที่ดีกับ แบรนด์ โดยปัจจุบันคนไทยยังคงมีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ในความทรงจำ และมากกว่า 50% ยังคงให้การสนับสนุนแบรนด์ในความทรงจำอย่างต่อเนื่อง




ซีเอ็มเอ็มยู ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างประชาชนและวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยเรื่อง “NOSTALVERSE การตลาดในอดีตเชื่อมสู่โลกอนาคต” เพื่อศึกษาทัศนคติและความคิดที่แตกต่างกันเชิงลึกของผู้บริโภค ทั้งหมด 3 ช่วงวัย ได้แก่ 1. Gen X ผู้เกิดช่วงปี พ.ศ.2508-2523 2. Gen Y ผู้เกิดช่วงปี พ.ศ.2524-2539 3. Gen Z ผู้เกิดช่วงปี พ.ศ. 2540-2555 เกี่ยวกับการถวิลหาอดีต ในด้านความรู้สึก ด้านตราสินค้าในความทรงจำ และการเชื่อมโยงอดีตไปสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยี Metaverse สู่การนำมาพัฒนาเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ สะท้อนออกมาในรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมให้คนต่างเจเนอเรชันเข้าใจซึ่งกันและกันได้ดีมากขึ้น


โดยปัจจัยที่ทำให้อดีตกับอนาคตจะมาบรรจบกันได้นั้น จากข้อมูลวิจัยพบว่า การถวิลหาอดีตอันหอมหวานเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจให้ชุ่มชื่น เพราะบริบทสังคมในปัจจุบัน อาทิ การระบาดโควิด-19 สงคราม ภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง และภัยธรรมชาติต่างๆ อาจก่อให้เกิดความเครียด ส่งผลให้ผู้คนบางกลุ่มรู้สึกถวิลหาช่วงเวลาในอดีต จนนำสู่การเกิด ‘กิจกรรมย้อนวันวาน’ เพื่อจำลองประสบการณ์ในอดีตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และสร้างพื้นที่จำลองในจิตใจที่รู้สึกปลอดภัย ซึ่งเป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะสามารถทำให้เขาเหล่านั้นสามารถหลีกหนีจากภาวะปัจจุบันอันเคร่งเครียด ขณะเดียวกันผลการศึกษาด้านจิตวิทยากับอาสาสมัครทั่วโลก พบว่า การคิดถึงอดีตช่วยเยียวยาจิตใจในสภาวะที่ยากลำบาก และยังช่วยให้มีความสุขเพิ่มมากขึ้นได้

จากการถวิลหาอดีตจึงนำสู่กรณีศึกษา “การตลาดย้อนวันวาน Nostalgia Marketing” การทำการตลาดโดยการเข้าถึงทัศนคติในเชิงบวก ประสบการณ์ความคุ้นเคย และความชื่นชอบในอดีตที่ผ่านมาของผู้บริโภค โดยความทรงจำในอดีตที่ดีเหล่านี้มีความพิเศษที่จะช่วยเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับผู้บริโภค






เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแล้วพบว่า คนไทย 91.4% เห็นว่าความทรงจำ “มีคุณค่า” จึงเป็นการยืนยันว่า ทำไม Nostalgia Marketing ถึงสำคัญ และสามารถขับเคลื่อนแบรนด์และธุรกิจไปข้างหน้าได้อย่างมาก ขณะเดียวกัน คนไทย 67.9% เห็นว่า ความทรงจำ “เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข” ช่วยเพิ่มพลังให้กับปัจจุบันได้ ขณะเดียวกันคนไทยมักจะนึกถึง พูดถึง และชอบเล่าหรือแชร์เรื่องราวในอดีตให้คนอื่นฟัง

ข้อมูลข้างต้นถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าการให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเก่าถือว่ามีความสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความสำคัญกับการเดินไปข้างหน้า



พลิกภาพ”แก่-เก่า ”สู่ “ความเก๋า-ดูคูล”

มาถึงการรุกคืบของ “บาจา” เริ่มจากคำถามที่ว่า “ทำไมต้องมองว่าบาจาเป็นรองเท้าคนแก่ ทำไมต้องดูเป็นแบรนด์เก่า อยากให้มันดูเก๋า ดูคูล” เป็นบทสนทนาส่วนหนึ่งของ“วิลาสินี ภาณุรัตน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกัน

หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารหญิงคนแรกของบาจา แบรนด์รองเท้าที่อยู่คู่กับคนไทยมากว่า 90 ปี วิลาสินี ได้ประกาศวิสัยทัศน์ด้วยการนำแบรนด์บาจาก้าวสู่แบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ถ่ายทอดผ่านการสื่อสารแบบใหม่ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่กว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย และให้มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคุณแม่ และกลุ่มคนเจน X-Y ซึ่งเป็นแฟนของแบรนด์อย่างเหนียวแน่น

ทั้งนี้กลยุทธ์สำคัญ ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “แฟนฉันมาร์เก็ตติ้ง” ได้ถูกหยิบยกนำมาใช้ ใครที่เคยชมภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน คงจะพอนึกภาพออก หากอธิบายเป็นจิ๊กซอร์ให้เห็นภาพก็คือ การทำตลาดในลักษณะของการเชื่อมความผูกพัน จากรุ่นสู่รุ่น โดยเอาความเก่าแก่ มาเป็นจุดแข็งในการสื่อสารสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน




-รักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมหากลุ่มเป้าหมายใหม่



“เราไม่อยากรีแบรนด์ดิ้ง แต่เราจะมีการเปลี่ยนแปลงการพูดคุย ย้อนไปตอนแรกๆ ต้องยอมรับว่า ตอนแรกที่เข้ามาทำงานที่ บาจาก็เคยมีความคิดจะรีแบรนด์ดิ้ง แต่เมื่อมาพิจารณาในรายละเอียดอย่างรอบด้านแล้ว ก็มาคิดว่า ด้วยอายุแบรนด์กว่า 94 ปี เราจะทิ้งทีมงาน ทิ้งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่เก่าแก่ขนาดนี้ได้จริงหรือ สำหรับแบรนด์เก่าแก่แล้วก็ต้องบอกว่าฐานลูกค้าเก่าถือว่ามีความสำคัญ ในขณะเดียวกันหากมองถึงเรื่องการแข่งขันในตลาด เราก็ต้องมีการหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา มันมีอะไรมากกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงไปโดยชิ้นเชิง สิ่งที่จะทำคือการเปลี่ยนแปลงการพูดคุย นั่นหมายถึงการพูดคุยยังเป็นเรื่องราวแบบเดิม แต่มีการเปลี่ยนเรื่องใหม่”

“วิลาสินี ภาณุรัตน์” บอกเล่าถึงความท้าทายในการทำงานว่า “เป็นครั้งแรกในการทำงานด้านการตลาดของเธอที่จะ ต้องมีการฟังเสียง จาก voice สอง voice อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การเลือกทำการตลาดในรูปแบบใหม่ด้วยการฟังเสียงจากฐานลูกค้าสองกลุ่มที่มีความแตกต่างกัน จากนั้นก็ต้องสื่อสารตรงกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม”

นั่นหมายถึง การทำตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่กว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย

ประเด็นหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ การใช้ฐานข้อมูลที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ นั่นก็คือการ ทำ CRM Loyalty Campaign ก็เพื่อที่จะรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่ ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการเข้าไปหาลูกค้ากลุ่มใหม่ใหม่มากขึ้น โดยการให้ความสำคัญกับเรื่องช่องทางออนไลน์ โซเซียลมีเดียต่างๆ สำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่เราจะทำตลาดมากขึ้น คือ กลุ่ม คุณแม่รุ่นใหม่วัย 30 ปีต้นๆ และอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน First Jobber ที่ต้องการรองเท้าที่สวมสบาย ในราคาที่จับต้องได้

-เปิดตัว “เบลล่า-ราณี แคมเปน” แอมบาสเดอร์คนแรก

ไฮไลท์สำคัญส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เป็นแอมบาสเดอร์คนแรก และ “ลี ฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ” Friend of Bata กับแคมเปญ Surprisingly Bata เพื่อตอกย้ำแบรนด์ดีเอ็นเอของบาจา ที่เน้นความสบายอย่างมีสไตล์ Style with Comfort พร้อมสื่อสารไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือคนที่ไม่เคยสวมใส่บาจามาก่อน ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายของบาจา ทั้งรองเท้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน รองเท้าทำงาน รองเท้าสำหรับไปงานในโอกาสต่าง ๆ ตลอดจนรองเท้ากีฬา ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกการใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน

“ก็ต้องบอกว่า เบลล่า ราณี และลี ฐานัฐพ์ เป็นตัวแทนของผู้หญิง และผู้ชายในแบบบาจา ที่สวย มีสไตล์ คือ ต้องบอกว่าไม่ใช่เป็นคนแบบชนิดที่ว่าเป็นแฟชั่นจ๋า แต่เป็นคนดูมีสไตล์ มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีความเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเวลา ช่วยสะท้อนแบรนด์ดีเอ็นเอของบาจาที่ว่า Style with Comfort สบายอย่างมีสไตล์ เพื่อสื่อสารไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้หันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบาจาในทุกโอกาส ทุกช่วงของชีวิต”


“ในตลาดรองเท้า ตอนนี้แบรนด์ของเรามาเป็นอันดับสี่ ปีนี้เราจะทำให้ขึ้นมาอยู่เบอร์สาม ปีหน้าเราอยากจะได้เป็นเบอร์สอง และจากนี้ไปในอีกห้าปีข้างหน้าเราน่าจะได้อับดับหนึ่งกลับมา”

เป็นเป้าหมายการทวงแชมป์ที่ท้าทายและน่าจับตา ภายใต้การนำทัพของ “วิลาสินี ภาณุรัตน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด



เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปี 2565 ด้วยขนมไหว้พระจันทร์สูตรคลีน จากแบรนด์เลอรูท

posted Aug 21, 2022, 9:26 PM by Maturos Lophong


เฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ประจำปี 2565

ด้วยขนมไหว้พระจันทร์สูตรคลีน จากแบรนด์เลอรูท



เลอรูท แบรนด์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค เพื่อสุขภาพ ภายใต้เครือเฮอริเทจ ร่วมเฉลิมฉลองและส่งมอบความสุขในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ในธีม “Lunarlicious” ขนมไหว้พระจันทร์สูตรคลีน เอาใจคนรักสุขภาพ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไขมันทรานส์ และสารกันเสีย แป้งบาง ไส้แน่น อร่อยเต็มคำ และแต่งเติมสีสันให้เข้ากับช่วงเทศกาล โดยมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ได้แก่ ไส้ทุเรียนอัลมอนด์พราลีน ให้คุณได้ลิ้มลองความเข้ากันของทุเรียนและอัลมอนด์พราลีน, ไส้ชาไทยแมคคาเดเมีย หอมชาไทยและได้แมคคาเดเมียเต็มคำ, ไส้ไข่เค็มคัสตาร์ด มาพร้อมกับอัลมอนด์และเมล็ดแตงโม, ไส้วอลนัทและผลไม้รวม ที่รวมเบอร์รี่ทั้ง 3 ชนิดไว้ด้วยกัน, ไส้ช็อกโกแลตมินต์ ความเข้มข้นของช็อกโกแลตบวกกับความสดชื่นจากมินต์ และไส้บ๊ะจ่างทรงเครื่อง (Ba Jang) เห็ดหอมชิตาเกะที่ให้ความเป็นบ๊ะจ่างได้อย่างลงตัว

ขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์เลอรูท (Le Root) สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม - 10 กันยายน 2565 ที่ร้าน Hm Kitchen (สาขาพุทธมณฑลสาย4-5/ ยศเส), กูร์เมต์ มาร์เก็ต (สาขาสยามพารากอน ชั้นจี, เอ็มควอเทียร์ ชั้นจี, ดีไซน์วิลเลจ พุทธมณฑลสาย 3 , เดอะมอลล์ บางแค, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน), ท็อปส์ มาร์เก็ต (สาขาเซ็นทรัลเวสเกต, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า), ร้าน เดอะเฮอริเทจ ไอคอนสยาม ชั้นจี โซนภาคใต้ เมืองสุขสยาม ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม – 10 กันยายน 2565 และสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ LINE SHOPPING: @LeRoot หรือสามารถพบกับ ขนมไหว้พระจันทร์แบรนด์เลอรูท ในงาน Heritage Fair (เดอะมอลล์ไลฟ์โตร์ ท่าพระ) ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม - 7 กันยายน 2565, งาน Thailand Coffee and Bakery ตั้งแต่วันที่ 25 – 28 สิงหาคม 2565 และงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 63 ไบเทค บางนา ตั้งแต่วันที่ 1 – 4 กันยายน 2565 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @leroot หรือโทร. 02-288-0908 และสามารถติดตามกิจกรรมและข่าวสารอื่น ๆ ของเครือเฮอริเทจได้ที่ www.heritagethailand.com




 

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ฉลองครบ 500 สาขาในประเทศไทย ที่โลตัส บางกะปิ ตั้งเป้าเปิด 150 สาขาใหม่ ภายในปี 2565

posted Jul 22, 2022, 12:09 AM by Maturos Lophong


มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ฉลองครบ 500 สาขาในประเทศไทย ที่โลตัส บางกะปิ


ตั้งเป้าเปิด 150 สาขาใหม่ ภายในปี 2565


บุคคลในภาพ (จากซ้ายไปขวา): คุณแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์ ดีไอวาย ประเทศไทย, คุณฐิตานันท์ ซุน ผู้อำนวยการ มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ประเทศไทย


และคุณเบญจวรรณ อ่องศรี ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายศูนย์การค้าและพื้นที่เช่า ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย



21 กรกฎาคม 2565, กรุงเทพฯ – มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ผู้ค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ฉลองครบ 500 สาขา ณ โลตัสบางกะปิวันนี้ โดยการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. หลังจากดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 6 ปี จากสาขาแรกในปี 2559 สู่ 500 สาขาทั่วประเทศ และวันนี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เป็นแบรนด์ที่ครองใจคนไทยอย่างแท้จริง


มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สาขาโลตัส บางกะปิ นำเสนอร้านค้าพื้นที่กว้างขวางถึง 1,100 ตร.ม. มีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่า 18,000 รายการ ประกอบด้วยสินค้าหลัก 10 หมวดหมู่ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ประดับยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่น ของขวัญ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเครื่องประดับ และเครื่องสำอาง มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มุ่งมั่นที่จะให้บริการชุมชน โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยและทำงานในเขตบางกะปิ เพื่อมอบความสะดวกสบายแบบครบวงจร และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ "รับประกันราคาถูกเสมอ"





นายแอนดี้ ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. (ประเทศไทย) กล่าวในงานฉลองครบรอบ 500 สาขาว่า “มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2559 วันนี้เราภูมิใจที่จะเฉลิมฉลองครบรอบ 500 สาขาของเราที่โลตัส บางกะปิ เราคาดว่าจะให้บริการลูกค้า 50 ล้านคนในปีนี้ผ่านร้านค้าทั้งหมดของเราในประเทศไทย ความสำเร็จนี้มาจากการสนับสนุนอย่างดีเสมอมาของลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และความทุ่มเทของพนักงานกว่า 7,000 คนของเราทั่วประเทศ ในนามของ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. เราขอขอบคุณที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของเราในวันนี้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบบครบวงจรที่มอบความสะดวกสบาย พร้อมคำมั่นสัญญาในการ "รับประกันราคาถูกเสมอ" ให้กับลูกค้าของเราในรูปแบบใหม่และน่าตื่นเต้น”

คุณแอนดี้กล่าวเสริมว่า การฉลองเปิดสาขาครบ 500 สาขานี้ถือเป็นนัยยะสำคัญในฐานะผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านชั้นนำของประเทศไทย โดยเป้าหมายของผู้ค้าปลีกด้านการเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์คือการที่ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ได้รับ World Branding Awards เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ได้รับติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน




“เราขอขอบคุณโลตัสที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับเราในความสำเร็จครั้งนี้มาตั้งแต่ปี 2559 การสนับสนุนของโลตัสทำให้เราเปิดร้าน มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. 86 สาขาในโลตัสทั่วประเทศ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีเรามีสาขาในโลตัสถึง 90 สาขาภายในสิ้นปี 2565” ก่อนหน้านี้ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ฉลองครบรอบ 100 สาขา ณ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สาขาบางใหญ่ นนทบุรี และฉลองครบรอบ 200 สาขา ณ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. พระราม 4 ในปี 2561 และ 2563 ตามลำดับ


“มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. มีเป้าหมายในการเปิด 150 สาขาในปี 2565 โดยขณะนี้ได้เปิดไปแล้ว 90 สาขาในครึ่งปีแรก และในปี 2565 เราตั้งเป้าที่จะมีสาขารวมมากกว่า 550 สาขาทั่วประเทศไทย ทั้งนี้การเติบโตเชิงบวกนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มอัตราการจ้างงานใหม่ของคนไทยกว่า 2,500 ตำแหน่ง” คุณแอนดี้ กล่าว

เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองครั้งสำคัญนี้ ทาง มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ได้จัดโปรโมชั่นทั่วประเทศ ลดสูงสุด 30% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และสำหรับลูกค้าที่สาขาโลตัสบางกะปิ สามารถร่วมเล่นกิจกรรมจะได้รับของสมนาคุณฟรี มูลค่ารวมสูงสุด 2 ล้านบาท พิเศษเฉพาะงานฉลอง มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ครบ 500 สาขา เท่านั้น สำหรับถือบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทยสามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้ K Point แลกเท่ายอดใช้จ่าย ที่ร้าน มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของ มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ที่ – เว็บไซต์ https://www.mrdiy.com/th/, Line: @mrdiythailand, Facebook: @mrdiyTH, และ Instagram: @mrdiy.thailand.


เกี่ยวกับ มิสเตอร์. ดี. ไอ. วาย.

มิสเตอร์. ดี. ไอ. วาย. เป็นบริษัทฯ ที่บริหารจัดการสาขาโดยตรง ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มีสาขากว่า 500 สาขาทั่วประเทศไทย เราเป็นร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ที่มุ่งมั่นทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ในทุก ๆ สาขาของเราทั่วประเทศ


มิสเตอร์. ดี. ไอ.วาย. ทุกสาขา ได้รับการบริหารจัดการโดยตรงโดยบริษัทมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. และทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ตลอดห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่าง ๆ ที่มิสเตอร์. ดี. ไอ. วาย. มีสินค้าให้เลือกหลากหลายกว่า 18,000 รายการ ประกอบด้วยสินค้าหลัก 10 แผนก ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ประดับยนต์ เครื่องเขียน และอุปกรณ์กีฬา ของเล่น ของขวัญ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเครื่องประดับ และเครื่องสำอาง



บริษัทฯ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกเสมอ โดยการดำเนินธุรกิจที่มีนวัตกรรมในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย คุณภาพดี และคุ้มค่าต่อการจับจ่าย โดยยึดมั่นคำขวัญของบริษัทฯ ของเราที่ว่า "รับประกันราคาถูกเสมอ"



ติดตามข่าวสาร และโปรโมชั่นอื่น ๆ ของ MR.DIY ได้ที่ – Facebook: @mrdiyTH, Instagram &Tiktok: @mrdiy.thailand, Line: @mrdiythailand, LinkedIn: MR.DIY Thailand, และYouTube: MR DIY Thailand

รักบ้านเกิด เปิดตัวกาแฟ ดริป รสชาติพรีเมียม ส่งตรงถึงคอกาแฟทั่วประเทศ

posted Jun 26, 2022, 10:31 PM by Maturos Lophong   [ updated Jun 27, 2022, 12:31 AM ]




รักบ้านเกิด เปิดตัวกาแฟ ดริป รสชาติพรีเมียม ส่งตรงถึงคอกาแฟทั่วประเทศ



บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด ในกลุ่มเบญจจินดา เปิดตัวกาแฟ ดริป สูตรพรีเมียม 2 สไตล์ ยกระดับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ส่งตรงถึงคอกาแฟทั่วไทย สานต่อแนวทางการเติบโตของกลุ่มเกษตรกรอย่างยั่งยืน พร้อมรับกระแสกาแฟเติบโตอย่างต่อเนื่อง


คุณพิรชัย เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด ในกลุ่มเบญจจินดา กล่าวว่า ในปี 2022 รักบ้านเกิด ครบรอบ 22 ปี สานต่อภารกิจสำคัญ ตามแนวคิด “เกษตรสร้างสรรค์ สุขยั่งยืน” มีเป้าหมายการดำเนินกิจการ สนับสนุนส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน สร้างการเติบโตของเครือข่ายเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด และส่งมอบสุขภาพดีให้แก่ผู้บริโภค บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ Rakbankerd Selected เป็นกาแฟดริป เมล็ดพันธุ์กาแฟออร์แกนิก 2 สูตร 2 สายพันธุ์ จากเครือข่ายเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคได้ลิ้มรสชาติกาแฟแท้แบบพรีเมียม สูตรเฉพาะตัวของกาแฟรักบ้านเกิด ได้แก่ สูตร Specialty และสูตร Signature

โดยสูตร Specialty เป็นการคัดสรรพิเศษเมล็ดกาแฟอาราบิก้า (Arabica) ออร์แกนิค 100% จากยอดดอยหลวง จ.เชียงราย ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบเปียก (Wet Process) โดยกรรมวิธีนี้อาศัยน้ำเป็นสำคัญ ทำให้เมล็ดกาแฟมีความสดชื่น มีชีวิตชีวามากขึ้น พิถีพิถันด้วยการคั่วแบบ Dark Roast หรือคั่วเข้ม ให้รสชาติหอมกรุ่น เอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ Dark Chocolate Smoky

สำหรับสูตร Signature เป็นการคัดสรรเมล็ดกาแฟออร์แกนิคจาก 2 แหล่ง 2 ชนิดผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟโรบัสต้า (Robusta) คุณภาพจากหุบเขา จ.ชุมพร และเมล็ดกาแฟพิเศษอาราบิก้า (Arabica) จากยอดดอยหลวง จ.เชียงราย ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบกึ่งเปียกกึ่งแห้ง โดยการผลิตนี้ความหวานของเนื้อกาแฟซึมเข้าสู่เมล็ด ส่งผลให้กาแฟหวานขึ้น พิถีพิถันด้วยการคั่วแบบ Medium Roast หรือ คั่วกลาง ให้รสชาติ Rich flavor, Full aroma, Thai taste ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรักบ้านเกิด

“รักบ้านเกิด มีเป้าหมายรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือผลิตภัณฑ์ออแกนิก เติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 30 % โดย กาแฟ ดริป เป็นการเปิดตัวเข้าสู่ตลาดการแข่งขันในกาแฟ ดริป ที่มีผู้จำหน่ายในตลาดแล้วหลายราย แต่ด้วยจุดเด่นของความพิถีพิถัน การควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยสูตรการคั่วเมล็ดกาแฟเฉพาะของรักบ้านเกิด เพื่อให้ได้รสชาติที่มีความหอมละมุนของเมล็ดกาแฟแท้ จึงคาดว่าจะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนเครือข่ายเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ได้เปิดให้ผู้สนใจเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าได้อีกด้วย” คุณพิรชัยกล่าว

ทั้งนี้ผู้บริโภค สั่งซื้อได้ ผ่านช่องทางโซเชียล มีเดีย

Facebook : Rakbankerd Selected

Instagram : Rakbankerd Selected

Line @ : @rbk_selected

Line my shop : Rakbankerd Selected https://shop.line.me/@rbk_selected

Lazada : RAKBANKERD Selected www.lazada.co.th/shop/rakbankerd-selected

Shopee : RBK.Selected www.shopee.co.th/rakbankerdselected




เกี่ยวกับ รักบ้านเกิด

บริษัท รักบ้านเกิด จำกัด (RAKBANKERD) ผู้สร้างสรรค์สื่อดิจิทัลเกษตรไลฟ์สไตล์ และธุรกิจเกษตรสร้างสรรค์สู่ความยั่งยืน ครอบคลุมทั้งคอนเทนต์ และต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรออร์แกนิกสู่ธุรกิจเกษตรแนวสมัยใหม่ในยุคดิจิทัล ผ่านเครือข่ายพันธมิตรเกษตรกรทั่วประเทศ สร้างความรู้และการตลาดสมัยใหม่ผ่านโซเชียลมีเดียที่ทันสมัยทุกแพลตฟอร์ม และสนับสนุนเครือข่ายเกษตรไทยยุคใหม่สู่ความยั่งยืน


เกี่ยวกับ RAKBANKERD COFFEE DRIP

RAKBANKERD COFFEE DRIP เปิดตัวด้วย 2 สูตร 1. Specialty 2. Signature คัดสรรเมล็ดพันธุ์กาแฟออร์แกนิคจากเครือข่ายเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด จาก จ.เชียงราย และ จ. ชุมพร ด้วยรูปแบบการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ควบคุมมาตรฐานการผลิตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แหล่งน้ำมาจากแหล่งสะอาดไม่มีสิ่งเจือปน ไม่มีสารปนเปื้อนในดินที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนในผลผลิต และวัตถุอันตรายในการผลิตตามข้อบังคับของกรมวิชาการเกษตร ผลิตภัณฑ์ได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand และ อย. และเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ รักบ้านเกิดได้ออกแบบวัสดุกระดาษกรองกาแฟแบบพิเศษ แปรรูปมาจากใยไผ่ ย่อยสลายง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และง่ายต่อการดริปกาแฟ ให้คุณสามารถทำได้เองทุกที่ทุกเวลา



“เครือสหพัฒน์” ยกทัพของกินของใช้ราคาเบาๆ มาให้ช้อปในงาน “สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26”

posted Jun 9, 2022, 11:49 PM by Maturos Lophong



“เครือสหพัฒน์” ชวนคนไทยฝ่าวิกฤตค่าครองชีพ

ยกทัพของกินของใช้ราคาเบาๆ มาให้ช้อปในงาน “สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26” 30 มิ.ย.- 3 ก.ค.นี้

ยิ่งใหญ่ เต็มรูปแบบทั้ง On Site ที่ไบเทค และ Online ผ่านแพลตฟอร์มดัง



นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า หลังจากที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้งานสหกรุ๊ปแฟร์ที่เคยจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีไม่สามารถจัดแบบ On Site ได้ถึง 2 ปี ในปีนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงเป็นโอกาสอันดีที่เครือสหพัฒน์จะได้นำงานสหกรุ๊ปแฟร์กลับมาจัดให้ยิ่งใหญ่ในรูปแบบ On Site เช่นเดิม และยังคงจัดในรูปแบบ Online ควบคู่กัน





“ตอนนี้ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นมาก สินค้าหลายรายการปรับราคาขึ้นไปแล้ว และยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่เตรียมขึ้นราคา เครือสหพัฒน์จึงได้จัดงาน สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 26 ในคอนเซ็ปต์ ปลดล็อก ช้อปสวนกระแส เพื่อปลดล็อกค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยนำสินค้าของกินของใช้มาให้ช้อปสวนกระแสในราคาเบาๆ พร้อมโปรโมชันที่พิเศษกว่าทุกปี เพื่อต้อนรับการกลับมาจัดอย่างเต็มรูปแบบของงานสหกรุ๊ปแฟร์” นายธรรมรัตน์ กล่าว


ในส่วนของงาน On Site จะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 20,900 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00–22.00 น. โดย ฮอลล์ 100 เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้านวัตกรรม ส่วน ฮอลล์ 98-99 จะมีสินค้าแบรนด์ดังราคาพิเศษมาให้เลือกซื้อกว่า 1,000 คูหา กว่า 100 บริษัท ประกอบด้วยอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า เครื่องหนัง รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องกีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ชุดชั้นในวาโก้ เครื่องแต่งกายจากกีลาโรชและลาคอสต์ เครื่องสำอางบีเอสซี หน้ากากอนามัยเวลแคร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเปา ซื่อสัตย์ ซิสเท็มมา โชกุบุสซึ โคโดโมะ




นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ Metaverse จากบริษัทในเครือสหพัฒน์ และพบกับโซนสินค้าญี่ปุ่นที่ยกทัพแบรนด์ดังอย่าง ไดโซะ ดองกิ ลอว์สัน วาเซดะ และบุงกะ มาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โซนสินค้าเพื่อสุขภาพจากกลุ่ม SAHAGROUP Health Care & Wellness ที่มานำเสนอสินค้าในคอนเซ็ปต์ สุขภาพดี 24 ชั่วโมง รวมทั้งสินค้าภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) และการจำหน่ายสินค้าแบบ B2B โดยมี KERRY EXPRESS ผู้นำธุรกิจด้านการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วไทย มาให้บริการส่งของสำหรับผู้ซื้อสินค้าในงานพร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 50% และยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของงานสหกรุ๊ปแฟร์อีกมากมาย อาทิ แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต การประกวด การสัมมนา การเซ็นสัญญาร่วมทุน การรับสมัครงาน เป็นต้น





ในส่วนของงาน Online ได้เปิดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดังอย่าง LAZADA, SHOPEE, JD CENTRAL รวมถึงแพลตฟอร์มของเครือสหพัฒน์ทั้ง SAHAGROUPONLINE, SHOP CHANNEL, IDF ONLINE, ICC SHOPPING, SAHAPAT DELIVERY และ LION SHOP ONLINE นอกจากนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ภายในเครือสหพัฒน์ ที่มีช่องทางการขายออนไลน์ของตัวเองก็พร้อมใจกันเปิดให้ช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษด้วย โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อทั้ง แฟชั่น ชุดชั้นใน ความงาม ของใช้แม่และเด็ก ของใช้ในครัวเรือน อาหารและเครื่องดื่ม บริการ/สื่อการเรียนรู้ สุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา พร้อมโปรโมชัน 30 วัน 30 โปร และแจกทองสำหรับผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายชื่อแบรนด์ที่เปิดให้ช้อปออนไลน์และโปรโมชันได้ที่ www.sahagroupfair.com และในเว็บนี้ยังมีกิจกรรมตลอดงาน อาทิ การไลฟ์สด และ Flash Sale



“สหกรุ๊ปแฟร์ว่างเว้นจากการจัดงานแบบ On Site ถึง 2 ปี เชื่อว่าหลายคนคิดถึง ต้องการไปเลือก ไปลอง ไปสัมผัสสินค้า ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานที่ทุกคนคุ้นเคย บรรยากาศทั้งหมดนี้กำลังจะกลับมา เราเชื่อว่างานปีนี้จะคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโซนจำหน่ายสินค้า ซึ่งเรายืนยันที่จะจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับทุกคน” นายธรรมรัตน์ กล่าว

1-10 of 234