Travel & Sport





อีซูซุแสดงความยินดีกับ 3 นักมวยไทยครองถ้วยพระราชทาน ในศึก THAI FIGHT 2022 รอบชิงชนะเลิศ

posted Dec 28, 2022, 10:08 PM by Maturos Lophong


อีซูซุแสดงความยินดีกับ 3 นักมวยไทยครองถ้วยพระราชทาน ในศึก THAI FIGHT 2022 รอบชิงชนะเลิศ

อีซูซุร่วมแสดงความยินดีกับ 3 นักมวยไทยที่สามารถครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เป็นผลสำเร็จ ในการแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT 2022” รอบชิงชนะเลิศ ภายใต้ชื่องาน “THAI FIGHT 100 ปี นครบาล” เนื่องในโอกาสที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ครบรอบ 100 ปี ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ จัดเต็มแสงสีเสียงสุดอลังการเอาใจคนกรุงเทพฯ ณ ลานหน้าอาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร

การแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบชิงชนะเลิศ ได้รับความสนใจจากแฟนมวยมากมาย ทั้งคนไทยและต่างชาติ เดินเรียงแถวเข้าชมกันอย่างเนืองแน่น พร้อมส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม เมื่อเสียงระฆังคู่เด่นของงานเริ่มขึ้นระหว่าง “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ ปี 2022 ขึ้นชกแบบสวมนวม รุ่นเวลเทอร์เวท นํ้าหนัก 67 กิโลกรัม เพชรธงชัยเปิดเกมด้วยแข้งขวานำ แล้วแลกแข้งกันอย่างดุเดือดและสูสี จนมาได้คะแนนนำในยกสุดท้ายด้วยลูกเตะที่เข้าเป้าอย่างจัง ทำให้สามารถโค่น ธีรเดช ช.ห้าพยัคฆ์ นักชกชาวไทย คว้าชัยชนะด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยรถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9 Ddi รุ่น L DA เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปครอง



เสียงเชียร์ยังคงต่อเนื่อง เมื่อ “ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์” ขึ้นชกแบบคาดเชือก รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท นํ้าหนัก 70 กิโลกรัม รัวหมัดใส่ “โอมาร์ มาฮีร์” นักชกชาวเบลเยียมแบบไม่ยั้ง ทำให้ยืนเซไปหลายครั้ง จนกระทั่งล้มทั้งยืนในยกที่ 1 ส่งผลให้ ป.ต.ท. ชนะน็อกติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยรถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9 Ddi รุ่น L DA เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปครอง

ปิดท้ายรายการด้วย แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (โครตมวยสารคาม) ชกแบบสวมนวม รุ่นจูเนียร์มิดเดิลเวท นํ้าหนัก 70 กิโลกรัม แสนชัย เดินหน้าออกอาวุธใส่ “เอลิต ฮอนคอง” นักชกชาวกัมพูชา แสนชัยเตะก้านคอ 2 ครั้ง ซึ่งในครั้งที่ 2 นี้ทำให้นักชกจากกัมพูชาล้มลงไปกองบนเวที ส่งให้ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ชนะน็อกไปในยกที่ 2 และได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย รถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู 1.9 Ddi รุ่น L DA เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปครอง

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการแข่งขันมวยไทยระดับโลก THAI FIGHT มาโดยตลอด และปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ภูมิใจอย่างมากเมื่อนักชกไทยแชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม. ยิม ได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นและยอดเยี่ยม คว้าถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาให้คนไทยได้สำเร็จ ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์และแรงสนับสนุนอีซูซุและไทยไฟท์มาโดยตลอดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ชมทุกท่านจะสนับสนุน “Isuzu Cup 2023” & “Thai Fight 2023" เป็นอย่างดีต่อไป”

ผลการแข่งขัน THAI FIGHT 2022 รอบชิงชนะเลิศ มีดังนี้

1. เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง (ไทย) ชนะน็อกยก 1 เอเมอร์สัน เบนโต้ (บราซิล)

2. กิตติ ส.ท.แมนนครระยอง (ไทย) ชนะคะแนน ใจเพชร ศิษย์เจ้าพ่อ (ไทย)

3. เวโร ว.รุจิรวงศ์ (เมียนมา) ชนะน็อกยก 3 ฟานี่ เพลูมพี (กรีซ)

4. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) แพ้น็อกยก 3 เทิน เทียร่า (กัมพูชา)

5. เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม. ยิม (ไทย) ชนะคะแนน ธีรเดช ช.ห้าพยัคฆ์ (ไทย)

6. ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์ (ไทย) ชนะน็อกยก 1 โอมาร์ มาฮีร์ (เบลเยียม)

7. แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) ) ชนะน็อกยก 2 เอลิต ฮอนคอง (กัมพูชา)



ลุยเวฟ 2 กับ merchandise ของ Mainstand รุดจับมือ ผนึกกำลัง Ari เปิดตัว FOOTBALLISTA Jersey เอาใจคนบ้าบอล

posted Nov 21, 2022, 8:25 PM by Maturos Lophong





ลุยเวฟ 2 กับ merchandise ของ Mainstand รุดจับมือ ผนึกกำลัง Ari

เปิดตัว FOOTBALLISTA Jersey เอาใจคนบ้าบอล


เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเสื้อ FOOTBALLISTA HOME KIT “ชุดเหย้าของคนบ้าบอล” โดยความร่วมมือของ “Mainstand” สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน และ “Ari” แบรนด์ฟุตบอลของทุกคน ล่าสุดได้ผลิตเสื้อคอลเลคชั่นสุดพิเศษที่เกิดจากความร่วมมือกันทั้งสองพาร์ทเนอร์ดีกรีสุดบ้าบอลของประเทศไทย ออกแบบจากจิตวิญญานของคนบ้าบอลตัวจริงอย่าง “ยักษ์ – จิตกร ศรีคำเครือ” นักเล่าเรื่องแห่ง FOOTBALLISTA รายการเรทติ้งอันดับหนึ่งของ Mainstand นั่นเอง





โดยชุดเหย้าของคนบ้าบอล ถูกถักทออย่างพิถีพิถัน จากแบรนด์สำหรับคนบ้าบอลอย่าง Ari ที่จะสะท้อนตัวตนของคนบ้าบอลให้หยิบใส่ได้ทุกเวลา ลวดลายและทรงของเสื้อได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อฟุตบอลในยุค 90 แพทเทิร์นของลวดลายมาจากสัญลักษณ์ตัว M ของ Mainstand โทนสีเสื้อเป็นสีดำ-เทา ตัดด้วยสีแดงโทนสว่างและสีขาว เสื้อด้านหน้าเป็นลวดลายตัดกับกราฟฟิกแบบ Pin Stripes ซึ่งเป็นลายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของเสื้อฟุตบอลในสมัยนั้นอีกด้วย


ทั้งนี้ผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของเสื้อ FOOTBALLISTA HOME KIT “ชุดเหย้าของคนบ้าบอล” สามารถไปเลือกซื้อกันได้ที่ Ari Football หรือที่ https://www.arifootballstore.com/jerseys/others/ari-mainstand-retro-jersey-2022.html อย่าช้าเด็ดขาด!!




ททท. จัดอบรมโครงการ “เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS

posted Nov 3, 2022, 10:26 PM by Maturos Lophong





ททท. จัดอบรมโครงการ “เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS พร้อมกันทั่วประเทศ ผู้เข้าร่วมกว่า 2,500 คน มุ่งสู่การท่องเที่ยว NEXT NORMAL เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานประชุมอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ “เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS ระหว่างวันที่ 1–2 พฤศจิกายน 2565 ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งจัดพิธีเปิดงานฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมอบรมฯ โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และ นส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ให้การต้อนรับ พร้อมถ่ายทอดสดในรูปแบบ Live Streaming ไปยังพื้นที่จัดกิจกรรมในอีก 4 ภูมิภาค เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่นมุ่งสู่การท่องเที่ยว NEXT NORMAL





นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว

(High Season) และปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์โลกและการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) ควบคู่ไปกับยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High value and sustainability) ททท. จึงได้จัดงานอบรมเชิงปฏิบัติการ

“เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2565




งานอบรมเชิงปฏิบัติการ “เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS นี้ ททท. มุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาฝั่งห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยวสำคัญยุค NEXT NORMAL พร้อมจัดกิจกรรมเวิร์กชอป Up-Skill ทักษะการตลาดดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อยกระดับบุคลากรการท่องเที่ยวไทยให้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทและความสำคัญของการเป็นเจ้าบ้านที่ดี กระตุ้นจิตสำนึกในการดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวควบคู่กับการดูแลนักท่องเที่ยวและสร้างความประทับใจ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนความพร้อมสูงสุดในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี NEW CHAPTERS สู่การท่องเที่ยว NEXT NORMAL อย่างยั่งยืน ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคกลาง ณ โรงแรมเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ, ภาคเหนือ ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น จังหวัดเชียงราย, ภาคตะวันออก ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ จังหวัดระยอง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมอัลวาเรซ จังหวัดบุรีรัมย์ และภาคใต้ ณ โรงแรมทวิน โลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยกำหนดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ต้องเป็นบุคลากรหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนักท่องเที่ยวตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวและบริการจากทั่วประเทศ ภูมิภาคละ 500 คน รวมทั้งสิ้น 2,500 คน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย และเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทาง

เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ภายหลังสถานการณ์การท่องเที่ยวกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมนำไปสู่การสร้างรายได้และขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป




ทั้งนี้ นอกจากโครงการ “เจ้าบ้านที่ดี” NEW CHAPTERS ททท. ยังคงจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ตอกย้ำแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม” อย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจกรรม AMAZING THAILAND WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS 2021 กิจกรรม AMAZING THAILAND MARATHON BANGKOK 2022 กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2565 กิจกรรมประดับไฟ

“Vivid Chao Phraya” เพื่อต้อนรับคณะผู้นำ APEC กิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2023 กิจกรรมภายใต้โครงการ “365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” เพื่อเร่งพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทย ภายในปี 2566 ให้กลับมาฟื้นตัวร้อยละ 80 ของปี 2562 ภายใต้วิสัยทัศน์ “ททท. เป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่ามุ่งสู่ความยั่งยืน” สอดคล้องกับแผนวิสาหกิจองค์กร ททท. พ.ศ. 2566–2570



อีซูซุส่ง เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม คว้าชัยในศึก “THAI FIGHT 2022” รอบแรก

posted Oct 18, 2022, 1:26 AM by Maturos Lophong



อีซูซุส่ง เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม คว้าชัยในศึก “THAI FIGHT 2022” รอบแรก


อีซูซุเปิดศึกมวยไทยโลก “THAI FIGHT 2022” รอบคัดเลือกรอบแรกรับลมหนาว ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ พร้อมแสดงความยินดีกับ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์มวยอีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 ซึ่งคว้าชัยตามคาด ชนะน็อกนักชกจากอิหร่านในยกที่ 2 นำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

บรรยากาศการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบแรกเนืองแน่นไปด้วยแฟนมวยชาวกรุงเทพ โดยมี คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน THAI FIGHT พร้อมด้วย คุณวิเชฐ ตันติวานิช อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเปิดงาน และ มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้ร่วมสนับสนุนหลักการแข่งขันฯ นำ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” พร้อมด้วยขุนพลทีมนักชกไทยก้าวสู่สังเวียนเกียรติยศ ร่วมปะทะลีลาแม่ไม้มวยไทยกับนักชกจากนานาประเทศ ทั้งในแบบสวมนวมและแบบคาดเชือกรวม 9 คู่




โดยคู่เด่นเป็นการพบกันของ มหากาฬเมืองร้อยเกาะ “เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม” แชมป์อีซูซุคัพคนล่าสุด และแชมป์อีซูซุคัพซูเปอร์ไฟต์ 2022 พบกับ “อาลี โกดราติซาราสคาน” จิ้งจอกแห่งเมืองคาราจ นักชกชาวอิหร่าน ทันทีที่ระฆังยกแรกดังขึ้น เพชรธงชัยเดินหน้าลุยปล่อยอาวุธเต็มกำลัง อาศัยจังหวะดีกว่า ไล่ต้อนรัวลีลาแม่ไม้มวยไทยใส่คู่ต่อสู้จนชนะน็อกไปได้ในยกที่ 2 ส่งผลให้เพชรธงชัย เข้าสู่ THAI FIGHT 2022 รอบรองชนะเลิศเป็นผลสำเร็จ

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับเพชรธงชัยในการคว้าชัยชนะด้วยความสามารถอันโดดเด่น และขอให้พยามพยามอย่างเต็มที่ในรอบรองชนะเลิศและชิงชนะเลิศเพื่อที่จะได้เป็นแชมป์ไทยไฟท์ 2022 และเพื่อรักษาถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติไว้สำหรับคนไทยต่อไป”





ผลการแข่งขัน THAI FIGHT 2022 รอบคัดเลือกรอบแรก มีดังนี้

1. ฟ้าลิขิต ลูกมหาธาตุ (ไทย) ชนะคะแนน โผน สายบุญเพ็ง (สปป.ลาว)

2. น้องโอ ช.ห้าพยัคฆ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ซาจจาด ซูไบนี่ (อิรัก)

3. ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2 ธันริทีย์ (กัมพูชา)


4. เพชรธงชัย ที.บี.เอ็ม.ยิม (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 2 อาลี โกดราติซาราสคาน (อิหร่าน)





5. เวโรว.รุจิรวงศ์ (เมียนมา) ชนะน็อกยกที่ 2 มาเรียน่า เบอร์นาเดส (บราซิล)

6. กิตติ ส.ท.แมนนครระยอง (ไทย) ชนะคะแนน เอเมอร์สัน เบนโต้ (บราซิล)

7. ป.ต.ท. ว.รุจิรวงศ์ (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 ธันจันตัค (กัมพูชา)

8. เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง (ไทย) ชนะน็อกยกที่ 1 หลุยส์ เปาโลเทอร์ร่า (บราซิล)

9. แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ไทย) ชนะคะแนน เหงียนดวน ลอง (เวียดนาม)






สำหรับการแข่งขัน “THAI FIGHT 2022” รอบรองชนะเลิศ จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 



ส่วนรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม ศกนี้ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ 


 ซึ่งผู้ครองตำแหน่งแชมป์ “THAI FIGHT 2022” จะได้รับรางวัลรถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” พร้อมเงินสดรวม 4 ล้านบาท ไปครองอีกด้วย

ยิ่งใหญ่!! บุรีรัมย์มาราธอน ปี 7 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไนท์รันมาตรฐานโลก ตั้งเป้า Gold Label รายการแรกของไทย

posted Aug 15, 2022, 11:29 PM by Maturos Lophong


ยิ่งใหญ่!! บุรีรัมย์มาราธอน ปี 7 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่

ไนท์รันมาตรฐานโลก ตั้งเป้า Gold Label รายการแรกของไทย



“บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” ประกาศศักดาไนท์รันอันดับหนึ่ง สานต่อความสำเร็จเป็นปีที่ 7 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ด้วยมาตรฐานระดับเหรียญทอง (Gold Label ) รายการแรกของไทย คงเสน่ห์ความอบอุ่น ประทับใจ เส้นทางวิ่งที่สวยงาม แสงสีเสียง กองทัพกองเชียร์ เต็มระบบ อลังการไปทั้งเมือง พร้อมรับนักวิ่งจากทั่วโลก ชิงชัย 21 ม.ค. ปีหน้า



“บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซนเต็ดบาย เครื่องดื่มตราช้าง” สวรรค์ของนักวิ่ง ที่สุดของงานวิ่งมาตรฐานโลกฝีมือคนไทย รับรองโดย สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ หรือ World Athletics Road Race จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ชิงเงินและของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยจะชิงชัยในวันที่ 21 มกราคม 2566 ในรูปแบบ Night Run ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์


ล่าสุดได้มีการแถลงข่าวการแข่งขันขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมผู้สนับสนุนภาคเอกชน นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, ตัวแทนภาครัฐ เอกชน ชมรมวิ่ง สื่อมวลชนและ นักวิ่งเข้าร่วมงานคับคั่ง โดยภายในงานยังมีการมอบเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานมอบให้กับสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นจำนวน 1 ล้านบาทและมอบเงินรายได้จากการจำหน่ายบิบการกุศลบุรีรัมย์มาราธอน 2022 จำนวน 198,000 บาท แก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดันการสร้างมาตรฐานใหม่ในการจัดการแข่งขันวิ่งรายการต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของบุรีรัมย์มาราธอนจัดขึ้นเป็นปีที่ 7 กระทรวงฯ สนับสนุนให้ก้าวสู่ระดับมาตรฐานเหรียญทองของโลกหรือ Gold Label เป็นรายการแรกของประเทศไทย เพื่อให้เราได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินงานวิ่งระดับ World Majors ทัดเทียมกับรายการอื่นๆของโลก



“หลังจากที่เราเสียโอกาสจากสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้ทาง World Athletics หยุดมอบเหรียญนี้เป็นเวลากว่า 2 ปีที่ ซึ่งในความเป็นจริง ควรได้รับเหรียญทองตั้งแต่เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา บุรีรัมย์ มาราธอน ถือเป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จมาก มีนักวิ่งและผู้ติดตามจากทั่วโลกร่วมงานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน นักวิ่งเก่าที่มาวิ่งซ้ำมากกว่า 20,000 คน หลังจากที่โควิด-19 ทั่วโลก ได้กลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื่อว่า ในปี 2023 จะมีนักวิ่งอีลิทและนักวิ่ง จากทั่วโลกร่วมงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก นำมาซึ่งเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างมหาศาล เป็นการนำกีฬามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว กระจายรายได้ เผยแพร่วัฒนธรรมความเป็นอยู่ วัฒนธรรมการกินผ่านอาหารที่มีชื่อของท้องถิ่นที่มีพร้อมเสิร์ฟให้กับนักวิ่งที่มาร่วมงาน”


ด้านนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ชาวบุรีรัมย์ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน พวกเรารับรู้ ใส่ใจและรับฟังทุกเสียงสะท้อนทั้งด้านที่ดีและไม่ดี มาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ทุกท่านที่มาเยือนได้รับทั้งความสุข ความปลอดภัย ความประทับใจยิ่งๆขึ้น หลังบ้านของเรามีคณะทำงานทั้งหน่วยงานรัฐ-เอกชน สถานศึกษา ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าแม่ขาย ทหาร ตำรวจ กู้ภัย อาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่มาคอยดูแลนักวิ่งตลอดทั้งเส้นทาง และสำคัญที่สุดคือกองเชียร์พี่น้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เพิ่มขึ้นทุกๆปีชาวบ้านต่างช่วยกันกันประดับไฟอย่างสวยงามตามเอกลักษณ์ในพื้นที่ของตนเอง โดยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันเป็นเจ้าภาพของงาน จึงเกิดกิจกรรมดีๆขึ้นมาได้ รวมทั้งเป็นโชคดีของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพงานกีฬาระดับประเทศและระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ชาวบุรีรัมย์ในทุกภาคส่วนมีความพร้อมและประสบการณ์ที่จะต้อนรับและดูนักวิ่งทุกท่านอย่างเต็มกำลัง สำหรับงานวิ่งในครั้งนี้ขอให้มั่นใจได้เลยว่าท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์งานวิ่งที่ดีที่สุดอีกครั้งอย่างแน่นอน”




นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับบุรีรัมย์มาราธอนในปีนี้ เป็นงานวิ่งบนมาตรฐานโลกระดับเหรียญทอง(Gold Label ) 

โดยตั้งเป้าหมายว่า จะเป็นมาราธอนที่ดีที่สุดของโลกในหลายด้าน ครบทั้ง 4 มิติ 


ไนท์รันที่มีทั้งแสง,สี,เสียง,รสสัมผัส การรวมของอาหารของดีบุรีรัมย์ที่พร้อมเสิร์ฟให้ผู้ร่วมงานได้ชิม ครบจบที่เดียว โดยมุ่งหวังให้เป็นงานวิ่งที่นักวิ่งมีความสุขที่สุด มีกองเชียร์มากที่สุดในโลกในอนาคต เป็นมาราธอนที่ไม่ใช่เพียงแค่“สวรรค์ของนักวิ่ง” แต่สามารถดึงดูด “นักท่องเที่ยว” ให้ไปร่วมเทศกาลวิ่ง ก้าวข้ามเป้าหมายการวิ่งเพื่อสุขภาพ แต่เป็นการสร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างความสุขให้กับทุกคนที่ไปร่วมงาน


นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง ในฐานะไตเติ้ลสปอนเซอร์ กล่าวว่า เครื่องดื่มตราช้างฯ ยังคงมุ่งมั่น ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนวงการกีฬาในประเทศ ซึ่งไม่ได้มีแง่มุมการแข่งขันอย่างเดียว แต่ละปีบุรีรัมย์มาราธอนจะมีนักวิ่ง พร้อมผู้ติดตามกว่า 35,000 คน ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย โดยในส่วนของเครื่องดื่มตราช้าง มีโครงการ “เก็บ-กลับ-รีไซเคิล” โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ รีไซเคิล จำกัด หรือ TBR ช่วยคัดแยกขวดน้ำดื่มในงาน นำกลับเข้าสู่กระบวนรีไซเคิลอย่างถูกวิธี โดยขวดทุกใบจะถูกนำไปแปรรูปเพี่อสร้างประโยชน์สูงสุด ซึ่งถือเป็นวิถีใหม่ของการจัดงานที่จะส่งเสริม การพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนควบคู่กันไปด้วยสำหรับไฮไลต์ที่สำคัญของบุรีรัมย์มาราธอนอีกอย่างคือ เส้นทางวิ่งที่สวยงาม แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ออกสตาร์ทจากสนามแข่งรถระดับโลก ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยมี จุด Finish เข้าเส้นชัยที่ สนามฟุตบอลช้าง อารีนา โอกาสเดียวที่จะได้วิ่งชมบรรยากาศในสนามแข่งรถระดับโลก พร้อมชมสีสันกองเชียร์จากทุกภาค ความบันเทิงตลอดเส้นทาง, สัมผัสธรรมชาติ, อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก, ผ่านจุดแลนด์มาร์คที่สวยงามต่างๆ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1, ศาลหลักเมือง, ชมบรรยากาศเมืองบุรีรัมย์ท่ามกลางแสงสีเสียงตระการตา กองเชียร์ที่คอยให้กำลังใจตลอดสองข้างทาง อาหารของดีบุรีรัมย์ รวมเมนูอร่อยจากร้านดังกว่า 160 ร้าน



ทั้งนี้ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2023 พรีเซ็นเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” จัดแข่งขันในรูปแบบไนท์รัน ในวันที่ 21 มกราคม 2566 เปิดรับสมัครแล้วอย่างเป็นทางการ โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 4 ระยะวิ่งได้แก่ มาราธอน ระยะทาง 42.195 ก.ม.ปล่อยตัวเวลา 18.30 น. เข้าเส้นชัยภายใน 02.00 น. (7.30 ชั่วโมง), ฮาล์ฟ มาราธอน ระยะทาง 21.1 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 20.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน 00.30 น. (4.30 ชั่วโมง), มินิมาราธอน ระยะทาง 10 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.00 น. เข้าเส้นชัยภายใน 23.45 น. (2.45 ชั่วโมง) และ ฟันรัน ระยะทาง 4.554 ก.ม. ปล่อยตัวเวลา 21.45 น. เข้าเส้นชัยภายในเวลา 23.30 น. (1.45 ชั่วโมง) 

นอกจากนี้ยังมีการงานจัดงานเอ็กซ์โป เวลา 10.00-20.00 น. เอาใจนักวิ่งสายช้อปจากทั่วโลกด้วยสินค้ากีฬาและสุขภาพ ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.burirammarathon.com และ www.facebook.com/bru.marathon

 

เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว AIA One Billion Trail 2022 งานเดิน-วิ่งเทรลประเภททีม 4 คนครั้งแรกในไทย

posted Aug 5, 2022, 12:08 AM by Maturos Lophong



เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว AIA One Billion Trail 2022 งานเดิน-วิ่งเทรลประเภททีม 4 คนครั้งแรกในไทย

เพื่อระดมทุนสนับสนุนสภากาชาดไทย ตอกย้ำคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives

กรุงเทพฯ, 2 สิงหาคม 2565 – เอไอเอ ประเทศไทย บริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศ* ที่เข้าใจความต้องการของคนไทย เปิดตัวงานเดิน-วิ่งเทรลประเภททีม 4 คน ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ AIA One Billion Trail 2022 ตอกย้ำคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ โดยเปิดโอกาสให้นักวิ่งได้เข้าร่วมแข่งขันแบบทีม 4 คน บนเส้นทางที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามจากดอยอินทนนท์ถึงดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิชิตเป้าหมายทั้งในด้านพละกำลัง ความแข็งแกร่ง รวมไปจนถึงด้านจิตใจของทุกคนในทีมที่ต้องมีความสามัคคี ความอดทน และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงในระยะยาว อีกทั้งนักวิ่งทุกคนรวมถึงประชาชนทั่วไปยังมีโอกาสได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่ง AIA One Billion Trail 2022 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มเปิดรับสมัครนักวิ่งเทรลเข้าร่วมงานแล้วที่เว็บไซต์ [aiaonebilliontrail.run]aiaonebilliontrail.run

นายนิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “กิจกรรม AIA One Billion Trail 2022 ถือเป็นงานเดิน-วิ่งเทรลประเภททีม 4 คน ครั้งแรกในประเทศไทยที่เราเป็นสปอนเซอร์หลัก โดยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนให้นักวิ่งทุกคนได้ร่วมพัฒนาขีดความสามารถทางด้านพละกำลัง รวมไปถึงความสมานสามัคคีกันในทีม เพื่อเป้าหมายเดียวกันคือการวิ่งเข้าเส้นชัย ซึ่งงานวิ่งเทรลครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สานต่อจากพันธกิจ AIA One Billion ที่กลุ่มบริษัทเอไอเอ และเอไอเอในอีก 18 ประเทศรวมถึงประเทศไทย ประกาศเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อมุ่งสนับสนุนผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชียให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ภายในปี 2030 เราต้องการให้งานเทรลครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้พันธกิจนี้กลายเป็นจริง เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคตให้แก่ผู้คนในภูมิภาค ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม AIA One Billion Trail 2022 ทั้งตัวนักวิ่งเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูง ตลอดจนประชาชนทั่วไป ยังมีโอกาสได้ร่วมทำบุญผ่านการบริจาคเงินสมทบทุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีปัญหาด้านการอ่านและเขียนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งตอกย้ำถึงคำมั่นสัญญาของเอไอเอในการสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ขึ้น Healthier, Longer, Better Lives”



นายณัฐพิสิษฐ์ ครุฑครองชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “จากที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเด็กในถิ่นทุรกันดาร ทำให้เห็นว่ายังมีเด็กไทย ซึ่งเป็นกำลังของชาติอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ ไม่ได้รับการศึกษาตามมาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาทักษะการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก จึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรมที่ทำให้คนไทยทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย กับโครงการ AIA One Billion Trail 2022 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดการแข่งขันเดิน-วิ่งเทรล แบบทีม 4 คน ผ่านเส้นทางธรรมชาติ ของเชียงใหม่ ทั้งดอยอินทนนท์และดอยสุเทพ ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ช่วยให้บรรยากาศการวิ่งสดชื่นตลอดเส้นทาง ท่ามกลางลมหนาวในเดือนธันวาคม โดยมีระยะทางให้นักวิ่งได้เลือกลงแข่งทั้งสิ้น 4 ระยะทาง ได้แก่ 100, 50, 25 และ 10 กิโลเมตร โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน ต้องสมัครเข้าร่วมมาเป็นทีม ทีมละ 4 คน เพื่อมาร่วมกันท้าทายศักยภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ และแสดงพลังแห่งความสามัคคี เพื่อพิชิตเส้นชัยร่วมกัน พร้อมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเราตั้งใจให้การวิ่งในครั้งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง คนรอบข้างซึ่งหมายถึงคนร่วมทีม และสภาพสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเรา ให้คงความสวยงามอย่างยั่งยืน อีกทั้งเรายังตั้งใจระดมเงินบริจาคจากนักวิ่งและทุกคนที่ต้องการมีส่วนร่วมสมทบทุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือเด็กไทยให้ได้รับโอกาสในด้านการศึกษาให้ดีขึ้น สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาที่เรามุ่งมั่นมาตลอด ให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”

ในงานแถลงข่าว AIA One Billion Trail 2022 ยังได้รับเกียรติจากองค์กรที่มีส่วนสำคัญกับงาน ทั้งสภากาชาดไทย นำโดย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ และนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด รวมถึงสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายจักรพงษ์ สิทธิหล่อ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ร่วมขึ้นพูดคุยบนเวทีถึงรายละเอียดของโครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย โดยสภากาชาดไทย และความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ในการต้อนรับเหล่านักวิ่งเทรลจากทั่วประเทศ ร่วมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดังและไอดอลด้านสุขภาพ ที่ได้มาบอกเล่าเทคนิคการวิ่งระยะทางไกล พร้อมกับเชิญชวนนักวิ่งทั่วประเทศให้เข้าร่วมงาน AIA One Billion Trail 2022 เพื่อช่วยส่งมอบโอกาสด้านการศึกษาให้แก่เด็กไทย

นอกจากนี้ ยังได้นักวิ่งเทรลชื่อดัง โค้ชหนำ น้ำเพชร พรธารักษ์เจริญ และดร. นที ทองศิริ จากบริษัท กู๊ดดีบอกซ์ จำกัด ผู้เป็นแกนหลักในการออกแบบเส้นทางวิ่งเทรลของงาน AIA One Billion Trail 2022 ในครั้งนี้ มาเล่าถึงเส้นทางวิ่งผ่านวิดีโอ ซึ่งเป็นเส้นทางวิ่งที่พิเศษที่สุดและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โค้ชหนำกล่าวว่า “ความตั้งใจของพวกเราคือ จัดงานวิ่งเทรลดี ๆ ให้คนไทยได้มีประสบการณ์ที่ดี และมีความพร้อมเพื่อไปสู่เวทีระดับโลก ที่สำคัญต้องการทำให้เกิดสังคม ชุมชนของการออกกำลังกายที่เข้มแข็ง และยั่งยืน รวมไปจนถึงเราอยากเป็นตัวกลางที่จะช่วยดูแลธรรมชาติ ผืนป่า ภูเขา รวมถึงชีวิตที่เกี่ยวของกับระบบนิเวศดังกล่าวนี้ ให้เกิดการดูแลรักษาที่ยั่งยืน”

AIA One Billion Trail 2022 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคม 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วมงานหรือร่วมบริจาคสมทบทุนสภากาชาดไทยผ่านบัญชีธนาคารของสภากาชาดไทยตรง โดยสามารถคลิกลงทะเบียนหรือร่วมบริจาคได้ที่เว็บไซต์ [aiaonebilliontrail.run]aiaonebilliontrail.run ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ความมันส์ระดับอินเตอร์! “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” ดวลเดือด “ฐิติพงศ์-นครินทร์" คว้าชัยสนาม 2

posted Aug 1, 2022, 12:09 AM by Maturos Lophong   [ updated Aug 1, 2022, 12:14 AM ]


ความมันส์ระดับอินเตอร์! “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์” ดวลเดือด “ฐิติพงศ์-นครินทร์" คว้าชัยสนาม 2



ศึกมอเตอร์ไซค์ทางเรียบเบอร์หนึ่งของไทย รายการ “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ 2022” ดวลสนาม 2 สุดเข้มข้นด้วยความมันส์ระดับอินเตอร์ ผลรุ่นใหญ่ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์หลายสมัยจาก พีเอสจีเอ ดูคาติ พีทีที ลูบริแคนท์ นก จูนเนอร์ ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ร้อนแรงต่อเนื่องคว้าชัย 2 สนามติด ขณะ “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” เหมาโพเดียมในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี โดยชัยชนะเป็นของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีซึ่งต้องวัดกันถึงรอบสุดท้าย หลังจบเรซสุดมันส์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์


การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ประจำปี 2565” สนาม 2 ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฏาคม 2565 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางการติดตามของแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วทั้งเอเชีย เนื่องจากเป็นการรวมนักบิดดังระดับเอเชียและดาวบิดมากฝีมือจากทั้งในและต่างประเทศประเทศ ลงแข่งขันเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือด


ไฮไลต์อยู่ที่คลาสสูงสุดของประเทศไทยอย่าง ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ซึ่งรวมดาวบิดชั้นนำไว้ในกริดสตาร์ทมากมาย เกมกลุ่มหน้าในเรซนี้เป็นการดวลกันระหว่าง 3 นักบิดอย่าง “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์หลายสมัยจาก พีเอสจีเอ ดูคาติ พีทีที ลูบริแคนท์ นก จูนเนอร์ ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ผู้ชนะสนามแรกซึ่งได้ออกตัวจากตำแหน่งโพล ที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า บริดจสโตน อนุชา เรซซิ่ง ทีม และ “ปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ จาก จัสต์คาร์ เรซซิ่ง ทีม ซึ่งขนาบข้างในกริดที่ 2-3



ออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ ฐิติพงศ์ โดยมี อนุชา และ พาทิศ ไล่บดอย่างเข้มข้นในช่วงแรกของเรซ อย่างไรก็ดี หลังผ่านครึ่งทางการแข่งขัน พาทิศ เริ่มผ่อนความเร็วลง ทำให้เหลือนักบิดเพียง 2 คนที่ลุ้นชัยชนะกันถึงรอบสุดท้าย



จบการแข่งขัน 12 รอบสนาม ฐิติพงศ์ รักษาตำแหน่งหัวแถวได้อย่างเหนียวแน่น บิดนำแบบม้วนเดียวจบคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 19 นาที 33.583 วินาที เฉือนอันดับ 2 อย่าง อนุชา เพียง 0.770 วินาที ขณะที่ พาทิศ ตามเข้าป้ายในอันดับ 3 ตามหลัง 7.147 วินาที






หนึ่งในรุ่นที่แฟนความเร็วชาวไทยให้ความสนใจอย่างมาก อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นการขับเคี่ยวอย่างสุดมันส์ไปจนถึงรอบสุดท้าย โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ปะทะกับแชมป์สนามแรก “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด ที่โค้ง 5 ในรอบสุดท้าย ก่อนที่ นครินทร์ จะบิดเข้าป้ายเป็นคันแรกคว้าชัยชนะให้กับตนเองได้สำเร็จด้วยเวลา 20 นาที 12.322 วินาที ตามด้วยสองนักบิดเพื่อนร่วมทีมจาก ฮอนด้า อย่าง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ คนละ 0.134 วินาที และ 0.466 วินาที ตามลำดับ ส่วน คณาทัต จากจังหวะดังกล่าวทำให้ทำได้เพียงประคองจบเรซในอันดับ 4 ตามหลัง 4.290 วินาที


ส่วนผลการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สต็อก 1000 ซีซี ปรากฏว่า ชานนท์ อินต๊ะ จาก อีอีเอสที เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม ออกสตาร์ทจากโพลนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 20 นาที 5.858 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง สิรภพ พูลศรี จาก ยามาฮ่า พีทีที ดี.ไอ.ดี. บริดจสโตน เดอะ เบลล์ 55 เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ถึง 6.881 วินาที ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ ออ ปิตะบุตร จาก คอร์ มอเตอร์สปอร์ต ตามหลัง 11.366 วินาที





ส่วนรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี ภาสกร แสนหลวง จาก ยามาฮ่า ดับเบิลยูพี หาดใหญ่ บริดจสโตน ไฮสปีด มาร์ค ดี.ไอ.ดี. ที่นำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 12 นาที 48.072 วินาที คว้าชัยชนะไปครอง เหนืออันดับ 2 อย่าง จิรายุ สายยนต์ นักบิดดาวรุ่งจาก วาลโวลีน เอสเอ็มเอส คาวาซากิ เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.437 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ รัฐพงษ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า เควายบี ไออาร์ซี เอ็นบี น้ำบาน โก๋ท่ามะกา ตามหลัง 10.193 วินาที

ด้านผลการแข่งขันในคลาสจูเนียร์อย่าง สปอร์ต โปรดักชั่น 400 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของนักบิดดาวรุ่ง ธีร์ธวัช คุณภู่ จาก วาลโวลีน เอสเอ็มเอส คาวาซากิ เรซซิ่ง ทีม หลังออกนำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 13 นาที 13.163 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง ชนะชัย บุญงาม จาก ยามาฮ่า ดับเบิลยูพี หาดใหญ่ เรซซิ่ง ทีม 2.758 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ธีรเทพ ต้านชัง จาก ยามาฮ่า ไออาร์ซี ดี.ไอ.ดี. วิทย์ ชลบุรี ตามหลัง 2.976 วินาที


สำหรับการแข่งขัน โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กันยายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเคย โดยจะถือเป็นการเข้าสู่ช่วงสำคัญในการลุ้นแชมป์ประจำปีของแต่ละรุ่นว่าจะมีสถานการณ์ออกมาอย่างไร





เคทีซีผนึกพันธมิตร จัดงานเสวนา “Start and Smart Tourism จุดเริ่มความท้าทายใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยว

posted Jun 16, 2022, 11:07 PM by Maturos Lophong


เคทีซีผนึกพันธมิตร จัดงานเสวนา “Start and Smart Tourism
จุดเริ่มความท้าทายใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยว
​ เคทีซีจัดงานเสวนา “Start and Smart Tourism จุดเริ่มความท้าทายใหม่ของธุรกิจท่องเที่ยวโดยมีพันธมิตรผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวและองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเข้าร่วมพูดคุยถึงทิศทางและการเตรียมความพร้อมของธุรกิจท่องเที่ยวรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทาง
​นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ - การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นปกติตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สัดส่วนการใช้จ่ายของสมาชิกผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในหมวดดังกล่าวปรับตัวขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 5 ของพอร์ตการใช้จ่ายโดยรวม (จากอันดับที่ 11 ในปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19) ทั้งนี้ เคทีซีได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ ความสนใจที่จะใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยวมากขึ้น พร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย / กระแสการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน ไม่นิยมท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนพลุกพล่าน และการท่องเที่ยวแบบครอบครัวหรือการท่องเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะปนกับบุคคลอื่นๆ โดยจะพักอาศัยอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นระยะเวลานานๆ ไม่เปลี่ยนที่พัก หรือสถานที่บ่อยๆ เคทีซีจึงได้ปรับกลยุทธ์การตลาด จับมือพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยวร่วมกันเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับกระแสการท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมา ดังนี้


 1) การมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรในการเดินทางท่องเที่ยวผ่านบัตรเครดิตเคทีซี – บางกอก แอร์เวย์ส และบัตรเครดิตเคทีซี - อโกด้า มาสเตอร์การ์ด
2) การชูจุดแข็งแกร่งของคะแนน KTC FOREVER สมาชิกสามารถใช้คะแนนแลกรับเป็นส่วนลดในการเดินทางท่องเที่ยวกับพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ สายการบิน บัตรเข้าชมสถานที่ และรถเช่า
3) การเปิดแพลตฟอร์ม Travel Hub ภายใต้คอนเซ็ปต์ “หา เรื่อง เที่ยว” เพื่อเป็นแหล่งรวมโปรโมชันด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงชุมชนต่างๆ กว่า 252 แห่งทั่วประเทศไทย ในส่วนของพันธมิตรธุรกิจ เคทีซีได้จัดแคมเปญ “เที่ยว อยู่ ได้” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางเคทีซีให้การสนับสนุนด้านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการขาย
4) การให้บริการด้านการท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบริการ KTC World Travel Service เพื่อเป็นทางเลือกให้พันธมิตรได้ขยายช่องทางในการจัดจำหน่าย รวมถึงดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สำหรับการจองตั๋วเครื่องบิน แพ็คเกจท่องเที่ยว รถเช่า บัตรเข้าชมสถานที่ รวมถึงการให้บริการรับทำวีซ่า



นางสาวอรินทร์ชยา บรรเจิดศิริ​ กรรมการกลาง​ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)​ กล่าวว่า “สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด ภาครัฐจึงได้ออกโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมและให้การสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวไทยให้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังตอบรับกับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ อาทิ การเดินทางที่เสรียิ่งขึ้น รวมถึงการอนุญาตให้ธุรกิจบริการกลับมาเปิดกิจการได้มากขึ้นด้วย”
นายโชติช่วง ศูรางกูร Vice President สมาคมบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า "นักท่องเที่ยวไทยให้ความสนใจในการเดินทางเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้นหลังจากที่ไทยปิดประเทศมาสองปีครึ่ง แต่คงยังไม่ได้กลับมาท่องเที่ยวแบบทะลักทลาย เนื่องจากประเทศที่เป็นที่นิยมของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้เปิดเต็มรูปแบบ ถึงแม้จะไม่มีมาตรการกักตัว แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ เช่น การขอวีซ่า การตรวจโควิด การซื้อประกันการเดินทาง และการลงทะเบียนเข้าประเทศก่อนเดินทาง ทำให้นักท่องเที่ยวไทยยังไม่ตัดสินใจเดินทาง ประกอบกับต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้น จากเดิมที่สูงอยู่แล้วจากสภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก การพุ่งขึ้นของค่าน้ำมันและอาหารจากสภาวะสงคราม ราคาตั๋วเครื่องบินที่สูงขึ้นเพราะจำนวนไฟลท์ที่น้อยลงไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิดกระทบเศรษฐกิจอย่างหนัก ส่งผลให้คนจำนวนมากมีปริมาณเงินในกระเป๋าลดน้อยลง ทางสมาคมฯ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านคน จากเดิมที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 11.2 ล้านคนในปี 2562 สำหรับช่วงไตรมาสที่ 3 ของงทุกปีเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศน้อยกว่าไตรมาสอื่นๆ อยู่แล้ว จึงต้องรอติดตามผลในไตรมาสที่ 4 ที่เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งหลายๆ ประเทศมีนโยบายที่จะเปิดเมืองมากขึ้นพร้อมกับผ่อนคลายมาตรการต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวลง"
นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้จัดการโครงการ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ กล่าวว่า “นักเรียนไทยสามารถทำวีซ่าไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป นับเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ที่รัฐบาลนิวซีแลนด์จะเปิดรับนักเรียนต่างชาติ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคม 2565 นักศึกษาต่างชาติทุกคนที่ผ่านเกณฑ์การรับเข้าเรียนต่อสามารถสมัครเรียนต่อและทำวีซ่านักเรียนได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยทางหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ได้ทำโปรโมชันพิเศษต้อนรับการเปิดประเทศด้วยการจ่ายค่าเล่าเรียนผ่านบัตรเครดิตเคทีซี รับคะแนน KTC FOREVER พิเศษ 4 เท่า และยังสามารถใช้คะแนนแลกจ่ายค่าเล่าเรียนได้อีกด้วย”


 นางสาวศิริพร บัณฑิตย์จิรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) สำนักงานกรุงเทพฯ กล่าวว่า “ประเทศญี่ปุ่นมีความยินดีต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวไทยอีกครั้ง โดยสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน ศกนี้ เป็นต้นไป โดยทาง JNTO พร้อมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นต่างให้ความสำคัญกับตลาดท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ด้วยการโปรโมทให้ชาวไทยเดินทางเที่ยวชมเสน่ห์มุมมองใหม่ของญี่ปุ่นอีกครั้ง”​
นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี สำนักงานกรุงเทพฯ กล่าวว่า “อสท.เกาหลี เตรียมความพร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ชูจุดเด่นสถานที่ท่องเที่ยวปลอดภัย (Safe Travels Destinations) ทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญ “Travel to Korea, Begins Again” จัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ กิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวและรับของที่ระลึกพิเศษที่สนามบินอินชอน รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน มอบสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ ตั๋วเครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และ อื่นๆ อีกมากมาย”
นายนิโคลัส ลิม ผู้จัดการสำนักงานการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจำประเทศมาเลเซียและบรูไน กล่าวว่า “การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) เดินหน้าเผยแผนสร้างความเชื่อมั่น เปิดรับ นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบโดสจากทั่วโลก มาพบประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้นิยามใหม่ ‘SingapoReimagine’ ให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางมาสัมผัสสิงคโปร์ในมุมมองใหม่เหนือจินตนาการ พร้อมชู 4 หัวใจหลัก “ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน-สุขภาพดี-ประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย-สถานที่เที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจ”
นางสาวณัฐินีฐิติ ภิญญาปิญชาน์ ตัวแทนการท่องเที่ยวปีนังประจำประเทศไทย กล่าวว่า “มาเลเซียเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เมื่อวันที่1 เมษายน 2565 การท่องเที่ยวปีนังกำลังเจรจากับ สายการบินและภาคธุรกิจเพื่อเปิดเส้นทางการเดินทางเข้าสู่ปีนังให้มากขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม 2565 การท่องเที่ยวปีนังจะจัดโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ และหาดใหญ่ภายใต้ธีม “Experience Penang” เพื่อโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งได้รับรางวัลระดับโลก เช่น ปีนังฮิลล์ ป่าฝนปฐมภูมิอันเขียวชอุ่มที่มีอายุ 130 ล้านปี ที่เพิ่งได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลกจากยูเนสโก (UNESCO) รวมถึงสตรีทอาร์ท และแหล่งรวมอาหารท้องถิ่นชื่อดัง จนทำให้ CNN จัดอันดับให้ปีนังเป็น หนึ่งใน 22 สถานที่ดีที่สุดที่ควรไปเยือนในปี 2565

บพข. ชูวัฒนธรรมอาหาร 7 ลุ่มน้ำ สู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

posted Jun 13, 2022, 1:32 AM by Maturos Lophong


บพข. ชูวัฒนธรรมอาหาร 7 ลุ่มน้ำ สู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินกิจการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงัก หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย แน่นอนว่าพฤติกรรมการท่องเที่ยวย่อมเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การท่องเที่ยวกลับมาเติบโตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยการกำกับของสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้ดำเนินการวิจัยและนำงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอดใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ภายใต้แผนงานบริหารจัดการและบูรณาการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ใน 7 ลุ่มน้ำ โดยมี ดร.สัญชัย เกียรติทรงชัย เป็นผู้อำนวยการแผนงานวิจัย





การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารใน 7 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย ลุ่มน้ำหมู่เกาะทะเลใต้ สมุย พะงัน เกาะเต่า เน้นอาหารและภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่น ผนวกกับอารมณ์ ศิลปะและความสัมพันธ์ของคนและธรรมชาติ เมนูอาหาร ผัดหมี่หมุย วายคั่ว ขนมโคหัวล้าน พื้นที่ลุ่มแม่น้ำทะเลสาบสงขลา ชูความโดดเด่นของวัตถุดิบที่เกิดจากคุณลักษณะเชิงพื้นที่ มีรสชาติและการใช้เครื่องเทศ เครื่องปรุงอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงเมนูอาหารที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถนอมอาหาร ทั้งการตากแห้ง หมัก ร้า เมนูอาหาร ปลากระบอกต้มน้ำส้มโหนด แกงน้ำเคยยอดหวาย แกงส้มปลากดไหลบัวลูกเถาคัน พื้นที่ลำปางและพื้นที่เชื่อมโยง (อาหารตามฤดูกาล) เป็นอาหารที่สมดุลทางโภชนาการ ปรุงง่าย ไม่พิถีพิถัน ใช้เนื้อสัตว์ไม่มาก เครื่องปรุงล้วนเป็นสมุนไพรจากธรรมชาติ เน้นใช้วัตถุดิบตามพื้นที่และฤดูกาล เมนูอาหาร ยำปลาแห้ง ข้าวกั้นจิ้น แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง พื้นที่รัตนโกสินทร์ สำรับชาววัง เกิดจากการสร้างสรรค์ผสมผสานและประดิดประดอย มีความประณีต วิจิตร บรรจง ตั้งแต่การสรรหาวัตถุดิบ การปรุง การจัดแต่ง เพื่อง่ายในการกิน และมีความสวยงาม เป็นมรดกตกทอดทางภูมิปัญญาจากตระกูลที่มีความใกล้ชิดกับข้าราชการชั้นสูงและพระบรมวงศานุวงศ์ เมนูอาหาร เมี่ยงคำ ผัดผักเบญจรงค์ ห่อหมกดอกบัวหลวง


 นอกจากนี้ยังมี สำรับชาวบ้าน เป็นจานอาหารที่เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารต่างชาติ เข้ากับอาหารท้องถิ่น เกิดเมนูที่แสดงวัฒนธรรมเฉพาะถิ่น เช่น ไส้กรอกเลือดของชุมชนชาวมอญ โรตีมะตะบะ ของชาวมุสลิม พื้นที่อีสานตอนบน เน้นอาหารมงคล เป็นอาหารที่รับประทานแล้วทำให้เกิดความสุขและความเจริญแก่ชีวิต ได้แก่ อาหารที่มีนามมงคล ความหมายมงคล รูปลักษณ์มงคล มีวัตถุดิบที่เป็นมงคล เชื่อมโยงกับพิธีมงคล และมีเรื่องราวมงคล เมนูอาหาร ลาบปลาน้ำโขง ข้าวเม่าโพธิ์ตาก หมกจ้อปลากราย พื้นที่ฉะเชิงเทรา เป็นเมนูที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์ โดยรับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่าง ๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น จนทำให้คนรุ่นหลังแยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ และอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น พื้นที่อยุธยา เมืองท่าตะวันออก อาหารแห่งความทรงจำที่สะท้อนประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง และผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม เช่น แกงกะทิ ที่มาจากชาวฮินดู การผัด การใช้น้ำมันจากจีน ขนมหวานที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ ที่ได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตก เป็นต้น


การท่องเที่ยวเชิงอาหารสร้างรายได้มากถึงร้อยละ 20 ของรายได้จากการท่องเที่ยวไทย สะท้อนถึงศักยภาพการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ที่เป็นแก่นแท้ของสถานที่ท่องเที่ยว และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 


ทั้งการสร้างโอกาสแสดงฝีมือแม่ครัวท้องถิ่น สร้างศักดิ์ศรีแก่วัฒนธรรมอาหารชาวบ้าน บันดาลพลังในการเชิดชูความรู้วิทยาศาสตร์โภชนาการ ทำให้อาหารท้องถิ่นมีความโดดเด่น เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ จนนำมาสู่รายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต



พราว กรุ๊ป ส่งอภิมหาโปรเจกต์ “อันดามันดา ภูเก็ต” งบลงทุนกว่า 4.5 พันล้านบาท

posted May 10, 2022, 2:05 AM by Maturos Lophong


พราว กรุ๊ป ส่งอภิมหาโปรเจกต์ “อันดามันดา ภูเก็ต” งบลงทุนกว่า 4.5 พันล้านบาท ปลุกพลังฟื้นฟูการท่องเที่ยว ตั้งเป้า นทท. 1 ล้านคนต่อปี พร้อมเปิดให้บริการ พ.ค. 65 นี้


พราว กรุ๊ป เปิดตัว “อันดามันดา ภูเก็ต” โครงการล่าสุด ที่มาพร้อมความโดดเด่นแบบมิกซ์ยูส มัดรวมทุกความบันเทิง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ไว้ในที่เดียว บนเนื้อที่ 58 ไร่ ใจกลางภูเก็ต ตั้งเป้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นของประเทศ อีกทั้งเชื่อมั่น จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก หวังรับนทท. 1 ล้านคนต่อปี สอดรับและสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวไทยปี 65







นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานในพิธี ได้กล่าวแสดงความยินดี ที่ได้มีการเปิดตัวโครงการอันดามันดา ภูเก็ต ซึ่งเป็นการลงทุนของภาคเอกชน ในการสร้างแหล่งท่องเที่ยว Man Made destination เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทางด้านการท่องเที่ยวที่เริ่มคลี่คลายขึ้น จากที่ได้มีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ภายหลังเมื่อสถานการณ์ covid ได้เริ่มคลี่คลายลง ภาคการท่องเที่ยว เป็นภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพราะเป็น ภาคเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากสถานการณ์โควิด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการว่างงาน และการหยุดกิจการของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ในระยะเริ่มต้นของการฟื้นฟูประเทศ หลังสถานการณ์ covid เริ่มคลี่คลาย นั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะได้ผลที่รวดเร็วและตรงกับปัญหาของประเทศได้มากกว่าการลงทุนด้านโครงการใหญ่ๆ ในภาคอุตสาหกรรมอื่น เพราะต้องอาศัยความเชื่อมั่นและระยะเวลาในการดำเนินการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ด้วยความรวดเร็วมากกว่านักลงทุน รายได้จากนักท่องเที่ยวกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ทุกอาชีพในระยะเวลาอันสั้น จะเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจรากหญ้าให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การลงทุนในโครงการอันดามันภูเก็ตเกือบ 5 พันล้านของภาคเอกชนจะมีนัยยะสำคัญต่อความเชื่อมั่นของการกลับมาของการท่องเที่ยวของประเทศไทยและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และจะเป็นการตอกย้ำความเป็นเมืองเท่องเที่ยวของเมืองไทย และส่งเสริมให้เมืองภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืนอีกด้วย


นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมของจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทยอย่างภูเก็ตว่า “ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาภูเก็ตเฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน ซึ่งในปัจจุบันพบยอดจองห้องพักเพิ่มมากขึ้น จึงเชื่อว่าการยกเลิกระบบ Test & Go อาจเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากถึงวันละ 6,000 คน และตั้งเป้าไว้ที่หลักหมื่นคนต่อวัน โดยขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต และภาคเอกชนได้มีการเตรียมความพร้อมแล้วในหลายด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการผลิกพื้นเศรษฐกิจของภูเก็ตโดยรวม”






นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า “ภูเก็ตมีความพร้อมอย่างยิ่งในทุกๆ ด้าน เห็นได้ชัดจากโครงการภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของภูเก็ตมีผลต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งไม่นานมานี้ ททท. ได้มีการเปิดตัว “Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters” ในการช่วยพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย สนับสนุนให้ “เที่ยวในไทย ปลอดภัย ประทับใจ ยั่งยืน และเศรษฐกิจเติบโต” โดยตั้งเป้าดึงยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้ 0.65-1.2 ล้านล้านบาท และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวกว่า 160 ล้านครั้ง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนโดยรวม 1.3-1.8 ล้านล้านบาท จึงเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้ของ ททท. จะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังภูเก็ตมากขึ้น และเอื้อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวภูเก็ตได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากแคมเปญนี้”



นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ซึ่งมีการปรับเงื่อนไขในการเข้าประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น คาดว่า 3 ตลาด ที่จะเดินทางเข้ามาและจะเสริมในช่วงโลว์ซีซัน ได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย และตะวันออกกลาง รวมถึงหากรัฐบาลต่ออายุโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 จะทำให้มีคนไทยมาเสริม ทำให้เราได้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า จากเดิมมีนักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 400-500 คน เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็น 2,000-3,000 คน ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อมีการปรับเปลี่ยนมาตรการเข้าราชอาณาจักรในลักษณะที่ผ่อนคลายอย่างมาก จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 เท่า จากปัจจุบันที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาวันละ 3,000 คน จะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 คน และในช่วง 4 เดือน คือ ระหว่างเดือน มิ.ย. ถึง ก.ย.นักท่องเที่ยวจะกลับมาประมาณ 40% ของปี 2019”





นายไบรอัน วอร์คเกอร์ สมิท บริษัท ไวท์วอเตอร์ เวสต์ อินดัสทรี ผู้ผลิตเครื่องเล่น กล่าวว่า “ทางไวท์วอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตสไลเดอร์ชั้นนำ จากประเทศแคนาดา ซึ่งได้มีผลงานออกแบบ และผลิตเครื่องเล่นให้แก่ เรือสำราญ โรงแรม สวนน้ำ และสวนสนุกชั้นนำหลายๆ แห่งทั่วโลก อย่างเช่นสวนน้ำ Wild Wadi ประเทศดูไบ และสวนน้ำ Disney’s Typhoon Lagoon รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยมาตรฐานการออกแบบและความปลอดภัยเหนือกว่า อีกทั้งประสบการณ์ในการออกแบบเครื่องเล่นมาแล้วกว่า 40 ปี จึงมีความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยี่ยมเยือน ที่อันดามันดา ภูเก็ต จะได้รับทั้งความสนุกและความปลอดภัยอย่างสูงสุด และยังเชื่อมั่นว่า อันดามันดา ภูเก็ต ซึ่งครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิง จะไม่เป็นเพียงแค่สวนน้ำระดับเวิลด์คลาสที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มคนมิลเลนเนียล และการเดินทางแบบครอบครัว แต่น่าจะนับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่สวยและอลังการ และตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย”






นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมา พราว กรุ๊ป สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังมากมาย โดยเฉพาะการเป็นผู้นำทางด้านไลฟ์ไสตล์ของเมืองหัวหินด้วยหลายธุรกิจที่มี อย่างโรงแรม อินเตอร์คอนทินเนลทัล หัวหิน รีสอร์ท โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน รวมทั้ง ทรู อารีน่า หัวหิน ศูนย์รวมสปอร์ตไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของเอเชีย อีกทั้งยังเป็นผู้นำการจัดอีเว้นท์ด้านกีฬาระดับนานาชาติ และคอนเสิร์ตระดับโลกหลายรายการใจกลางเมืองหัวหินอีกด้วย


ต่อเนื่องจากความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่บริการที่หัวหิน โดยเฉพาะในส่วนของ โครงการ วานา นาวา ซึ่งเป็นมิกซ์ยูสแห่งการผักผ่อนและการบันเทิงแห่งแรกของไทย ที่ได้รับความนิยมจนกระทั่งเคยได้รับโหวตให้เป็นสวนน้ำที่ดีที่สุดอันดับ 3 ในทวีปเอเซีย ในปี 2020 บนเว็บไซท์ TripAdvisor ส่งต่อความตั้งใจที่จะขยายโครงการไปยังจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย โดยปักธงให้จังหวัดภูเก็ต เป็นก้าวต่อไปที่แข็งแกร่งและสร้างความภาคภูมิใจของพราว กรุ๊ป โดยในปี 2562 ได้มีการพัฒนาโครงการและเปิดให้บริการโรงแรมอินเตอร์ คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท โรงแรมระดับลักชัวรี่ โดดเด่นด้วยที่ตั้งโอบล้อมด้วยธรรมชาติและทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลอันดามันและหาดทรายขาว ด้วยแนวคิดการออกแบบไทยร่วมสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Heaven on Earth” และล่าสุดกับโปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2565 อย่างอันดามันดา ภูเก็ต





คุณพราวพุธให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ภูเก็ตได้รับการยอมรับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางธุรกิจโรงแรม หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างเดียว แต่ยังไม่ค่อยมีแหล่งท่องเที่ยวประเภทมนุษย์สร้างขึ้น หรือ Man-made attraction จึงเป็นที่มาของโปรเจกต์ อันดามันดา ภูเก็ต ด้วยงบลงทุนกว่า 4.5 พันล้านบาท บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 58 ไร่ ทั้งหมดประกอบไปด้วย 3 ส่วนธุรกิจคือ 1) สวนน้ำ 2)โรงแรม และ 3) พื้นที่รีเทลเชิงไลฟ์สไตล์ ที่มาพร้อมกับโชว์น้ำพุสุดอลังการ โดยในส่วนของสวนน้ำเตรียมจะเปิดในเดือน พ.ค. นี้ โดยโครงการฯ นี้ ถูกวางตำแหน่งให้เป็นมากกว่าสวนน้ำ แต่มุ่งให้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบวงจร รวมของดี วัฒนธรรม และจุดน่าสนใจต่างๆ ของเมืองภูเก็ตมารวมไว้ ในที่เดียวกัน เชื่อมั่นว่าจะต้องกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของภูเก็ตที่ทุกคนต้องมาเยือน


เสน่ห์ของสวนน้ำระดับโลกแห่งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านแนวคิดและแรงบันดาลใจ “Thai Legend Meets Fantasy” เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย เติมเต็มไปด้วยความสนุกสำหรับทุกเพศทุกวัย มีการวางประสบการณ์การท่องเที่ยว บน 3 ธีมหลักๆ คือ 1) การผจญภัย (Adventure) 2) วัฒนธรรม (Culture) 3) การพักผ่อนหย่อนใจ (Leisure) เพื่อรองรับความต้องการของทักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย หลากหลายความต้องการ โดยมีทะเลเทียมขนาดใหญ่ 10,000 ตร.ม. สามารถโต้คลื่นได้สูงสุดถึง 3 เมตร ที่เดียวในไทย ที่มาพร้อมกับหาดทรายเทียมที่มีความยาวกว่า 300 เมตร และยังสามารถรองรับคนได้มากกว่า 5,000 คนสำหรับการจัดงานและอีเว้นท์ต่างๆ เครื่องเล่นและจุดน่าสนใจทั้งหมดกว่า 25 รายการ รวมไปถึงสไลเดอร์สุดเร้าใจกว่า 12 สไลเดอร์ โซนเครื่องเล่นสำหรับเด็กกว่า 5,300 ตารางเมตร ทั้งสำหรับสาย Adrenaline สายชิลล์ และเด็กๆ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยหน้าผาและก้อนหินจำลอง เพื่อสื่อถึงเสน่ห์ของทะเลอันดามันที่เต็มไปด้วยภูเขาหินทราย เขาตะปูจำลองขนาดเท่าของจริง Lazy River ที่ยาวที่สุดในไทย ตลาดน้ำที่เต็มไปด้วยอาหารนานาชาติ Ultimate Theme Party ทุกเดือน และอีเว้นท์กับคอนเสิร์ตระดับโลกที่จะมีขึ้นตลอดทั้งปี ดังนั้นเชื่อว่า อันดามันดา ภูเก็ต จะกลายเป็นใจกลางของความบันเทิงแห่งใหม่ของเมืองภูเก็ต



สำหรับสวนน้ำ ที่เปิดใหม่ในยุคดิจิทัล อันดามันดา ภูเก็ต ได้มีการนำระบบ cashless payment ผ่านสายข้อมือ RFID มาใช้ อีกทั้งยังมี APP ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานในช่วงไตรมาสที่สาม จะทำให้ผู้เข้ามาใช้บริการสามารถเพิ่มความสนุก และเก็บคะแนนจากการใช้จ่าย และเล่นเกมส์ AR ภายในสวนน้ำ ถือว่าเป็น Gamification ของประสบการณ์การเที่ยวในสวนน้ำครั้งแรกในไทย และเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่เที่ยวแบบมีจิตสำนึก (Conscious Traveler) ที่เพิ่มขึ้น อันดามันดา ภูเก็ต ยังใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยนโยบาย Zero Waste หรือการจัดการน้ำเสียและการนำน้ำมารีไซเคิลแบบ 100% เพื่อให้เกิดการประหยัดและใช้น้ำอย่างคุ้มค่าที่สุด มีการนำน้ำบาดาลมาใช้และลงทุนในระบบกรองน้ำ Reverse Osmosis เพื่อลดการใช้น้ำประปาไปถึง 20% และตั้งเป้าจะเป็นสวนน้ำที่แรก ที่ไม่มีการใช้ Single Use Plastic ไม่ว่าจะเป็น ขวดน้ำพลาสติก หรือหลอดต่างๆ ในส่วนของความปลอดภัยนั้น ได้มีการจ้างไลฟ์การ์ดกว่า 200 ชีวิต โดยที่ทุกคนจะได้รับการฝึกและอบรบภายใต้หลักสูตรของ Ellis & Associates' International Lifeguard Training Program (ILTPTM) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานของความปลอดภัยที่สูงที่สุดในธุรกิจสวนน้ำอีกด้วย



คุณพราวพุธ กล่าวปิดท้ายว่า อันดามันดา ภูเก็ต จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นศูนย์รวมแหล่งพักผ่อน สวนน้ำ และความบันเทิงในรูปแบบ Integrated Entertainment and Resort Destination ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นน้ำของโลกของเมืองภูเก็ตให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งเชื่อว่า การเปิดในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวของภูเก็ตที่สำคัญอย่างทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานกว่า 400 ชีวิต การทำงานร่วมกันกับผู้ส่งและผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น มี Partnership กับโรงแรมในภูเก็ตกว่า 300 โรงแรม ทัวร์เอเจ้นท์กว่า 500 ราย ในการร่วมกันทำการตลาด มีการทำข้อตกลงในการส่งลูกค้ากับกลุ่มขนส่งกว่า 3,000 คัน ตอกย้ำความมั่นใจในการท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมขานรับนโยบายเปิดประเทศของทางรัฐบาล และหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวของ ททท. ในปี 2565 อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยวจำนวน 1 ล้านคนต่อปี

1-10 of 131